รวบอดีตซี 7 เรือนจำ โกงเงินผู้ต้องขังนับร้อยครั้ง อ้างหาเงินถอยรถใหม่

View icon 123
วันที่ 26 ธ.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เจ้าหน้าที่เรือนระดับชำนาญการ ซี7 ปลอมแปลงเอกสารแอบเบิกเงินของผู้ต้องขังไปนับร้อยครั้ง ได้เงินไปกว่า 3 ล้านบาท ข้ออ้างที่กระทำความผิดคือ หาเงินถอยรถใหม่ ตำรวจตามจับกุมได้ขณะแอบไปทำงานที่บริษัทไฟแนนซ์

เมื่อเช้านี้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. นำกำลังเข้าจับกุม นางมทิรา มูลดี อายุ 45 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครสวรรค์ ระดับชำนาญการ (ซี7) ตามหมายจับของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารแต่กลับปลอมแปลงเอกสาร เพื่อหวังเบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริษัทแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

โดยพฤติกรรมแห่งคดีคือ เมื่อปี 2556 นางมทิรา ทำงานเป็นข้าราชการระดับซี7 เรือนจำกลางนครสวรรค์ มีหน้าที่ดูแลบัญชีการเงินของผู้ต้องขัง แต่กลับอาศัยประสบการณ์กว่า 20 ปี จนรู้ช่องว่างในการทุจริต ปลอมแปลงเอกสารใบเบิกเงิน ฉ้อโกงเงินของนักโทษในเรือนจำที่ญาตินำมาฝากไว้ให้ แต่ถ้าหากผู้ต้องขังทราบเรื่องว่าถูกโกงเงินฝาก ก็จะไม่กล้าร้องเรียน หรือ เรียกร้องให้ตรวจสอบ เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งในเรือนจำ จึงจำยอมให้ถูกฉ้อโกงเงิน ทำให้นางมทิรา เกิดย่ามใจ ก่อเหตุเรื่อยมารวมกว่า 140 ครั้ง คิดเป็นเงินมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท

ต่อมาได้มีผู้ต้องขังไปร้องเรียนว่าถูกนางมทิราโกงเงินฝากจากญาติไป ทำให้มีการตรวจสอบการทำงานของนางมทิรา พอนางมทิราทราบว่าถูกตรวจสอบ จึงหลบหนีออกนอกพื้นที่ทันที่ จากนั้นก็ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ จนถูกให้ออกจากราชการ และถูกออกหมายจับในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารู้อยู่แก่ใจดีว่าตนเองถูกตำรวจออกหมายจับ จึงได้หลบหนีมาตลอด และบอกกับทางบ้านของตนว่า หากมีเอกสารหมายเรียก ไม่ต้องติดต่อมาหาตนเด็ดขาด เพื่อตัดช่องทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ ทำให้รอดพ้นการจับกุมเรื่อยมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบเบาะแสสำคัญบางอย่างที่ทำให้รู้ว่า หนีมาแอบทำงานอยู่บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดกำแพงเพชร จนเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการสอบสวน นางมทิรา ให้การรับสารภาพว่าได้ฉ้อโกงเงินของผู้ต้องขังไปจริง ทำไปเพราะต้องการหาเงินออกรถใหม่ป้ายแดง และนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่ง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป