ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากกรณีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีพริตตีสาวสวยมาออกรายการ ถกไม่เถียง เหตุถูกหนุ่มชาวจีนหลอกแต่งงาน ขอมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งจนตั้งครรภ์ จากนั้นมีการเตรียมงานแต่งอย่างสวยหรู โดยฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายออกเงินค่าใช้จ่ายไปก่อนร่วม 100,000 บาท แต่พอหนุ่มจีนทราบว่า ลูกในท้องเป็นผู้หญิง ฝ่ายหนุ่มจีนเริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไป เริ่มติดต่อยากขึ้น จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย สาวพริตตีเชื่อว่า หนุ่มจีนที่มาหลอกตนเป็นขบวนการหลอกหาหญิงไทยแต่งงานเพื่อล่าลูกชาย ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก รับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบแล้ว
วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พา น.ส.เนย (นามสมมติ) พริตตีสาวผู้เสียหาย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยดำเนินคดีกับหนุ่มชาวจีนรายนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงไทยตกเป็นผู้เสียหายในอนาคต
นายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนและหลายฝ่ายมองว่าเป็นขบวนการล่าลูกชายของชาวจีน ตนคาดว่าจะยังมีหญิงไทยอีกจำนวนมากที่อาจได้รับการกระทำลักษณะดังกล่าว แต่ไม่มีความกล้าที่จะดำเนินคดีเอาผิด ตนยังได้ข้อมูลจากกลุ่มคนไทยที่ทำทัวร์กับนักท่องเที่ยวจีน พบว่าคนจีนมักจะหาหญิงไทยหน้าตาดี ครอบครัวดี หรือเรียกว่าเป็นแม่พันธุ์ดีมาทำในลักษณะนี้ อีกทั้งล่าสุด เพจสายไหมต้องรอดของเรายังได้รับการขอความช่วยเหลือจากหญิงไทยรายหนึ่ง ซึ่งได้พาลูกชายไปพบกับครอบครัวของสามีชาวจีนที่ประเทศจีน แต่กลับถูกยึดพาสปอร์ต และไล่ให้หญิงไทยกลับ แต่จะเอาลูกชายไว้ที่ประเทศจีน ทำให้หญิงไทยกังวลความไม่ปลอดภัย จึงพาลูกชายหลบหนีไปซ่อนตัวในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตนจะประสานเรื่องความช่วยเหลือต่อไป ตนมองว่าขบวนการนี้ไม่ธรรมดา และจะมีอัตราสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยและหญิงไทยอย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในเคสนี้ ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด และจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายเรียกแม่สื่อชาวจีนรายนี้ เพื่อสอบถามข้อมูลทั้งหมด ทั้งการเข้ามาพำนักในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเวลาใด ใช้วีซาประเภทใด ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ใดบ้าง ประกอบอาชีพอะไร รวมถึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอดีตสามีของผู้เสียหายได้อย่างไร ซึ่งถ้าพบความผิดเข้าองค์ประกอบกฎหมายมาตราใด จะดำเนินการพิจารณาเอาผิดทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน เพื่อไล่เรียงพฤติการณ์ รวมถึงจะเรียกสอบปากคำพยานที่พักอาศัยในคอนโดฯ ดังกล่าว และเคยถูกแม่สื่อจีนรายนี้ชักชวนด้วย
น.ส.เนย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพฤติการณ์ของแม่สื่อจีนที่ติดต่อหนุ่มจีนรายนี้ให้ เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการอย่างแน่นอน เพราะเขาพยายามนำเสนอชายชาวจีนให้หลายคน อีกทั้งตนยังได้รับข้อมูลมาว่า มีหญิงไทยประมาณ 2 ราย ที่อยู่ในคอนโดฯ เดียวกัน เคยถูกแม่สื่อจีนรายนี้ติดต่อหนุ่มจีนให้เหมือนกัน
