ลุ้น ครม.อนุมัติปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ-ลดค่าไฟฟ้า

View icon 84
วันที่ 12 ธ.ค. 2566
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ต้องมาลุ้นกันว่าค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายหลังปีใหม่ยังจะเป็นหน่วยละ 3 บาท 99 สตางค์หรือไม่ และมีข่าวดีวันนี้ รัฐบาลจะแถลงแนวทางการช่วยเหลือประชาชนมีหนี้ในระบบ ไปติดตามจาก คุณอนันตชัย วัชรเสถียร รายงานสดจากทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ยังต้องจับตาว่าจะมีการยื่นเรื่องพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ ภายหลังคณะกรรมการค่าจ้าง ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 เพิ่มในอัตราวันละ 2-16 บาท เรื่องนี้จะถูกยื่นเข้าสู่การประชุม ครม.ด้วยหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับอัตราดังกล่าว

จากการเปิดเผยจากปลัดกระทรวงแรงงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง มีมติให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 เพิ่มในอัตราวันละ 2-16 บาท แบ่งเป็น 17 อัตรา โดยอัตราสูงสุดคือจังหวัดภูเก็ต วันละ 370 บาท และอัตราต่ำสุดคือ จังหวัดนราธิวาส, ปัตตานี, และยะลา วันละ 330 บาท โดยจะนำเข้าที่ประชุม ครม. 12 ธันวาคม 2566 นี้ก็คือวันนี้ และจะให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เตรียมที่จะหารือกับรัฐมนตรี และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องใหม่อีกครั้ง หากวันนี้อัตราดังกล่าวถูกเสนอเข้าที่ประชุม ครม.มา ก็อาจจะยังไม่ผ่านการเห็นชอบ

ส่วนกระทรวงพลังงาน จะมีการเสนอแนวทางตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ 423 บาทต่อขนาดถัง 15 กิโลกรัม ต่ออีก 3 เดือน หรือเริ่มวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2567 ส่วนก๊าซ NGV จำหน่ายในราคาไม่เกิน 14 บาท ต่อกิโลกรัม

ส่วนค่าไฟฟ้า จะพิจารณาให้กับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 151-300 หน่วยต่อเดือน คิดเป็นประมาณ75% หรือ ประมาณ 17.7 ล้านคน โดยจะตรึงค่าไฟฟ้าไว้หน่วยละ 3 บาท 99 สตางค์ ต่ออีกระยะระหว่างนี้จะเร่งรื้อโครงสร้างราคาพลังงานใหม่ทั้งหมด

ส่วนการดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าที่เหลือ หรือ ผู้ใช้ไฟฟ้า 300 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป ที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติเคาะค่าไฟฟ้า ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน อยู่ที่ประมาณ 4 บาท 68 สตางค์นั้น ทางกระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ในพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.) เพื่อหารือถึงแนวทางการดูแลค่าไฟฟ้าให้กลุ่มคนดังกล่าว

ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี บอกว่าต้องกดราคาให้อยู่ 4 บาท 10 สตางค์ให้ได้ หลังเห็นตัวเลขค่าไฟฟ้างวดหน้าแล้วมองว่า ยัังสูงเกินกว่าจะรับได้

และไฮไลต์สำคัญของวันนี้ ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดมาตราการช่วยหลือ ผู้เป็นหนี้ในระบบ แบบฟลูแพ็คเกจ จากที่ได้ช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้นอกระบบไปแล้ว

ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ได้แบ่งการช่วยเหลือออกเป็น หนี้สินข้าราชการ ที่พบว่ามีข้าราชการที่อยู่ในระบบเงินกู้สหกรณ์ ทั้งสิ้น 3 ล้านคน ที่จะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการ และรัฐบาลจะดูแลปรับเรื่องการหักเงินเดือน รวมไปถึงการขยายชำระเงินต้น และคณะกรรมการฯ จะหาเงินพิเศษ โดยการใช้เงินกู้จากสถาบันที่เป็นทุนเดิม ทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ออมทรัพย์ของตัวเอง รวมไปถึงต้องจับตาการช่วยเหลือเรื่องของหนี้บัตรเครดิต ที่ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย หากผิดชำระเงินล่วงหน้าจะลดลงหรือไม่

เดือนธันวาคม ช่วงใกล้ ๆ สิ้นปีแบบนี้ ต้องจับตาด้วยว่า กระทรวงต่าง ๆ จะมีการยื่นเรื่อง หรือนโยบายมอบของขวัญให้กับประชาชน เข้า ครม. ได้ไปจับจ่ายใช้สอยในช่วงปีใหม่นี้หรือไม่