ไม่มีแผ่ว! ชัยชนะ พร้อมเช็กไลน์หลุดสกัด มาดามเดียร์ แซะ คนลาออก รักพรรคหรือรักตัวเอง ลั่น โหวต เศรษฐา ไม่ใช่ต้องการเป็นรัฐบาล
วันนี้ (10 ธ.ค.66) นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชี้แจงกรณีไลน์กลุ่มประธานสาขาพรรค และตัวแทนสาขาพรรคที่เป็นโหวตเตอร์ว่อนโซเชียล ไม่ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้ น.ส.วทันยา บุนนาค ว่า ข้อเท็จจริง สส.ของพรรคส่วนใหญ่ และตนก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับ ให้มีการแข่งขัน และยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด ซึ่งต้องไปดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใคร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา ยินดีที่จะตรวจสอบและพิจารณาให้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองเป็นการล็อบบี้หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สามารถมองได้ว่าเป็นการล็อบบี้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน ส่วนที่มีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ถือว่าเป็นประสบการณ์เลือดไหลซ้ำหรือไม่นั้น ตนเห็นว่า ผู้ที่บอกว่ารักพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กร สี่ปีมีการเปลี่ยนแปลง เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็พร้อมที่จะทำงานให้ แต่หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรักพรรคเราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค และหาก กก.บห.ชุดใหม่ไม่ดี ถึงเวลา 4 ปีก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตนเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้ว
ในฐานะ กก.บห.ชุดใหม่ ตนพร้อมรับฟังทุกเสียง ทุกปัญหา รวมถึงทุกคำวิจารณ์ คำแนะนำนำไปสู่การแก้ปัญหา เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ และกลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม พรรคประชาธิปัตย์เดินทางเข้ามาสู่ปีที่ 78 มีทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุด สิ่งหนึ่งที่เราบอกว่ามีเจตนาดีต่อพรรค ต้องช่วยกันแสดงความคิดเห็น ตนคิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤต หัวหน้าพรรคคนใหม่ก็รับฟังทุกปัญหา และได้แถลงชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์รับฟังทุกเสียง เราไม่ใช่พรรคใหม่ และเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ส่วนเรื่องของนโยบายพรรค ยอมรับว่าการเมืองขณะนี้ การแข่งขันกันทางความคิด เราต้องพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชน
ส่วนที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าคนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กก.บห. จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่
หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะทำให้สถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ โต้กลับทันทีว่า ใครต่อต้านครับ สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรักพรรคหรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อวานนี้ หากนายเฉลิมชัยไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็พร้อมทำงานให้พรรคและไม่ลาออก แต่หากตนลาออกถือว่าตนรักตัวเอง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เพราะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา เคยยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น ตนพูดชัดเจนว่าการโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นการหาทางออกให้ประเทศ และเราไม่ได้โหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา หลังจากวันโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่าตนทำงานตรวจสอบ และออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่
