สุริยะ ชื่นชมทุกฝ่าย จับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เครือข่ายใหญ่ “ลูกพญาแล” ลั่น ยุคนี้ต้องไม่มีส่วยสติกเกอร์

View icon 170
วันที่ 6 ธ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สุริยะ ชื่นชมทุกฝ่าย จับกลุ่มอิทธิพลรถบรรทุก เครือข่ายใหญ่ “ลูกพญาแล” หลังขนดินน้ำหนักเกินกว่า 2 หมื่นกิโลกรัม เผย เร่งแก้กฎหมายปรับอัตราสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท ลั่น ยุคนี้ต้องไม่มีส่วยสติกเกอร์

วันนี้ (6 ธ.ค.66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขอชื่นชมหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม บช.ก. บก.ทล. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ จนสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินเป็นเครือข่ายของรถบรรทุกรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “ลูกพญาแล” ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลของกลุ่มรถบรรทุก ที่ส่อเค้าเลี่ยงกฎหมาย และก่อนนี้ไม่มีหน่วยงานใดกล้าจับกุม

โดยจับกุมดังกล่าว ตามรายงานของ บก.ทล. ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้จับกุมตัวนายกิติศักดิ์ อายุ 24 ปี ได้ที่แยกสันติสุข ทล.346 (ถนนรังสิต - ปทุมธานี) ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งนายกิติศักดิ์เป็นผู้กระทำความผิดในคดีการใช้ยานพาหนะน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเดินบนทางหลวง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ทางหลวง พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549) มาตรา 61 เนื่องจาก นายกิติศักดิ์ขับรถยนต์กระบะบรรทุก ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ใช้ยาง 10 เส้น และรถพ่วง ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ใช้ยาง 12 เส้น บรรทุกดิน จำนวน 1 คัน มาตรวจสอบที่ชั่งน้ำหนัก ปรากฎว่า ชั่งได้น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุก 73,670 กก. ซึ่งพิกัดน้ำหนักตามกฎหมายรถประเภทนี้กำหนดไว้ที่ 50,500 กก. จึงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 23,170 กก.

ทั้งนี้ แนวทางแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินหลังจากนี้ จะเร่งปรับแก้ไขกฎหมายให้มีโทษปรับในอัตราสูงสุดไม่เกิน 100,000 - 200,000 บาท แล้วแต่กรณีการกระทำความผิด จากเดิมมีโทษปรับในอัตราสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนกรณีเพิ่มโทษจำคุกนั้น ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ศึกษาผลดีผลเสีย รวมทั้งให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบการรถบรรทุกด้วย เมื่อผลศึกษาเสร็จจะเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้

ขอยืนยันว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะต้องไม่มีการทุจริต หรือส่วยสติกเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินงานทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต สร้างความมั่นใจ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในทุกมิติ