อนุทิน ลุยปั๊มผลงาน ปราบอิทธิพล แก้หนี้นอกระบบ ปลูกฝังค่านิยมรักชาติ

View icon 86
วันที่ 3 ธ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อนุทินลุยปั๊มผลงาน ปราบอิทธิพล คุมอาวุธปืน แก้หนี้นอกระบบ ย้ำงานมหาดไทย ปลูกฝังค่านิยมรักชาติ รักความเป็นไทย

วันนี้ (3 ธ.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า ได้เร่งดำเนินการให้เกิดความเป็นรูปธรรมสูงสูด กรณีการควบคุมอาวุธปืน ได้ออกกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งห้ามนำเข้า ห้ามพก เพื่อลดจำนวนปืนในสังคม ลดโอกาสความสูญเสียจากอาวุธชนิดนี้ ไปจนถึงสิ่งเทียมอาวุธปืน ก็อยู่ในข่ายที่กำลังจัดการ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้สังคม ส่วนเรื่องปืนเถื่อน ได้ร่วมมือกับตำรวจเข้าไปจัดการแล้ว

การปราบปรามผู้มีอิทธิพล มหาดไทยได้ทำบัญชี ใครมีชื่อในบัญชี จะถูกตรวจสอบความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด จนถึงเส้นทางการเงินด้วย หากพบการกระทำความผิด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที  เตือนหลายครั้งแล้วว่า อย่าริทำตัวเอง จนเข้าไปมีชื่ออยู่ในบัญชี เพราะถ้าเข้าไปแล้ว ก็เหมือนถูกจำกัดอิสระ ทำอะไรก็ลำบาก ถูกเพ่งเล็งตรวจสอบอยู่ตลอด และต่อให้ทำตัวดีขึ้น ก็ใช่ว่าจะออกจากบัญชีง่ายๆ ขาเข้ามีคณะกรรมการเลือกเข้าไป ตอนออกมาก็ต้องมีคณะกรรมการพิจารณาเช่นกัน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดระเบียบสังคม ชุดปฏิบัติการของกรมการปกครอง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด สถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ปล่อยให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการ เป็นต้น เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นที่จับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้ว กว่า 2.4 พันราย นี่คือตัวเลข ที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจัง 

ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ได้รับคำสั่งจากนายกฯ ให้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องเงินกู้นอกระบบ เปิดให้ลงทะเบียนรับการแก้ไขในหลายช่องทาง เมื่อมีข้อมูลชัดเจน จะพิจารณาว่า จะแก้ไขด้วยรูปแบบใด เช่น ไกล่เกลี่ยหนี้ เอาหนี้เข้าระบบ หากใครทำผิดจะใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหา นอกจากนั้น เรายังมีนโยบายเพื่อแก้ไขความทุกข์เฉพาะหน้าของประชาชน เช่น การเลื่อนระยะเวลาการตัดน้ำ ตัดไฟ การไม่เก็บค่าสอบ TCAS เป็นต้น

“อีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ และเป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทย นอกจากการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข คือ การรณรงค์ปลูกฝังค่านิยมรักชาติ รักความเป็นไทย สร้างคนเก่ง คนดี คนมีคุณธรรม มีศีลธรรม ไปเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของชาติ  และผมพูดหลายครั้งแล้วว่า สังคม จะธำรงอยู่ได้ หากคนในชาติ รู้จักเคารพกัน ไม่เอาเปรียบเบียดเบียนกัน กลัวการทำผิด ละอายต่อบาป ซึ่งตรงนี้เราปลูกฝังกันได้ผ่านวิชาศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง โดยเรามีการร่วมมือกับหลายกระทรวงฯ ก่อนหน้านี้ และจะมีการกำชับให้การเรียนการสอน ต้องเข้มข้นเรื่องวิชาประวัติศาสตร์ เพิ่มมากขึ้น ให้คนไทย เข้าใจในความเป็นคนไทย ภูมิใจในความเป็นชาติ ไปจนถึงให้เกิดความรัก และเคารพสถาบันหลักของชาติ  ชาติจะเข้มแข็งได้ หากคนในชาติ มีความภาคภูมิในความเป็นชาติ ”