วันคนพิการสากล เศรษฐาย้ำเป้าหมาย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลเท่าเทียม

View icon 508
วันที่ 3 ธ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันคนพิการสากล เศรษฐายืนยันรัฐบาลจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วยสวัสดิการโดยรัฐ ย้ำเป้าหมาย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

วันที่ 3 ธ.ค.66  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2566 ดังนี้ 3 ธันวาคมของทุกปี องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันนี้เป็น ‘วันคนพิการสากล’ (International day of persons with disability) เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในปัญหาความทุพพลภาพ และระดมการสนับสนุน เพื่อศักดิ์ศรี สิทธิ และสวัสดิภาพของคนพิการ

ในปี 2566 นี้ องค์การสหประชาชาติได้กำหนดประเด็นหลัก คือ ‘รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพลิกฟื้นและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมกับคนพิการ เพื่อคนพิการ โดยคนพิการ’ (United in action to rescue and achieve the SDGs for, with and by persons with disabilities)

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขจากรายงานสถานการณ์คนพิการในประเทศไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอกย้ำความเปราะบางสถานการณ์คนพิการของไทย ที่มีอุปสรรคนอกเหนือความสามารถในการใช้ชีวิตอิสระแล้ว ยังถูกซ้อนทับด้วยความสามารถในการเข้าถึงการศึกษา และมีความเป็นอยู่ยากลำบากขึ้นในสภาวะความสูงอายุ โดยมีปัจจัยหลักมาจากปัญหาความยากจน คนพิการในประเทศไทยจำนวน 2.2 ล้านคน เป็นผู้พิการในกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี 1.29 ล้านคน หรือเกินครึ่ง และมีคนพิการที่จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาจำนวน 1.4 ล้านคน ซึ่งเกินครึ่งอีกเช่นกัน ส่วนคนพิการในวัยแรงงาน 860,000 คน ได้รับการจ้างงานที่ 54,000 คน จากสถานประกอบการ 2 หมื่นแห่ง

นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชน สถานประกอบการ รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ ที่ให้โอกาสคนพิการ ได้แสดงศักยภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้เขาเหล่านั้นได้ร่วมเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจ ผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้า ไม่ต่างจากเรา ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วยสวัสดิการโดยรัฐ และ “สวัสดิการโดยรัฐ” ที่เราพยายามทำอย่างยิ่งคือการจัดสวัสดิการตั้งแต่ต้นตอ คือการสร้างรายได้ให้คนไทยทุกคน ลดรายจ่ายภาครัฐ ใช้ทรัพยากรที่จำกัดยิงศรให้ตรงเป้า ให้ได้ผลเท่าทวีคูณ ซึ่งหวังผลสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน ขจัดความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่มากลง สร้างสังคมที่หยิบยื่นโอกาสอย่างเท่าเทียม

“เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leave no one behind)” นายกรัฐมนตรีย้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง