เช้านี้ที่หมอชิต - "เช้านี้ที่หมอชิต" เกาะติดคดีสามียิงภรรยาและลูกสาวอีก 2 คน ก่อนยิงตัวตายรวม 3 ศพที่สงขลา ส่วนลูกสาวคนโตบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดอาการของเด็กหญิงคนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว
ลูกสาวคนโตถูกพ่อยิงยกครัว 3 ศพ พ้นขีดอันตราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการของเด็กหญิง วัย 11 ขวบ ซึ่งถูกพ่อยิงด้วยปืน 9 มม.เข้าที่ศีรษะ 1 นัด และรักษาตัวที่ห้อง ICU โรงพยาบาลหาดใหญ่ ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว ร่างกายมีการตอบสนอง แต่ยังไม่รู้สึกตัว และยังใช้เครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้ผ่าตัดนำหัวกระสุนออก เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อระบบประสาทและสมอง เบื้องต้นต้องดูแลอย่างใกล้ชิดว่ามีอาการแทรกซ้อนใด ๆ หรือไม่ คาดว่าอาจฟื้นตัวได้ใน 6 สัปดาห์
ส่วนบรรยากาศบ้านจุดเกิดเหตุ พบว่าถูกปิดเงียบ แต่มีญาติของนายประทีป ผู้ก่อเหตุ และญาติของนางสาวพรรณี ผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่บ้าน ก่อนเข้าไปล้างทำความสะอาดคราบเลือด และแยกย้ายกันออกไป
ทีมข่าวสอบถามพี่สาวผู้ก่อเหตุได้ข้อมูลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายคบกันตั้งแต่ชั้นมัธยมฯ แต่งงานเมื่อปี 2552 และมีลูก 2 คน แต่ไม่สะดวกให้ข้อมูลปัญหาในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นผู้ก่อเหตุ ยืนยัน ผู้ก่อเหตุเป็นคนอัธยาศัยดี และคืนก่อนเกิดเหตุยังเฮฮาปาร์ตี้ในงานแต่งงานเพื่อน โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้
ส่วนเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าหลายเดือนก่อนเคยได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากบ้านหลังนี้ 1 นัด แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาเกิดเหตุสลด
วุ่น ญาติ 2 ฝ่ายแย่งศพหลานสาว จ.สงขลา
ศพของนางสาวพรรณี และลูกสาวคนเล็ก 9 ขวบ ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเขารักเกียรติ์ อำเภอรัตภูมิ โดยมีรายงานว่า ก่อนหน้านั้นญาติทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน เพราะฝ่ายหนึ่งต้องการนำศพลูกสาวไปไว้กับศพพ่อ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม เพราะก่อนเกิดเหตุเวลา 16.00 น. ผู้ก่อเหตุโทรไปหาพี่สาวภรรยา บอกว่าจะฆ่ายกครัวให้หมด ซึ่งพี่สาวภรรยาพูดกับผู้ก่อเหตุแบบประชดชันกลับไปว่า "อยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าทำหลานสาวทั้ง 2 คน" อีกทั้งยังพบว่าผู้ก่อเหตุซื้อหมอนรองหัวศพไว้ล่วงหน้า
ส่วนศพของนายประทีป ญาตินำไปเก็บไว้ที่วัดใหม่ทุ่งคา อำเภอรัตภูมิ เป็นการชั่วคราว และวันเสาร์จะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีที่วัดนาสีทอง
ญาติมือยิงยกครัว เปิดชนวนเหตุสังหาร จ.สงขลา
ทีมข่าวเดินทางไปสอบถามนางจตุพร น้าสาวของนายประทีป ให้ข้อมูลว่า สาเหตุยิงยกครัวอาจมาจากความเครียดที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ขอถอนตัวออกจากการเป็นพยานในคดียาเสพติด ซึ่งอาจทำให้นายประทีปต้องติดคุก และทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายประทีปได้ถามภรรยาว่า "จะเป็นพยานให้หรือไม่? ถ้าไม่เป็น เดี๋ยวจัดให้คนละ 1 นัด" นอกจากนี้ยังเชื่อว่านายประทีป อาจเครียดเรื่องหึงหวงและปัญหาปากท้อง เพราะไม่สามารถออกไปทำงานในระหว่างพักโทษ เนื่องจากติดกำไล EM ทำได้เพียงออกไปรับจ้างกรีดยางได้ค่าจ้าง 100-200 บาทเท่านั้น
