ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วัชรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด, ลำพูน นำโดย ร.ต.อ.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช รอง สว.กก.4 บก.ปทส. กับพวก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย ซึ่งมีสถานประกอบกิจการผลิตอาหาร (น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท) “ปิ่นทอง” บ้านกองลอย หมู่ 4 ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบพบอาคารโรงเรือน จำนวน 1 หลัง ติดตั้ง ถังดักน้ำจำนวน 3 ถัง ติดตั้งก๊อกน้ำเพื่อบรรจุน้ำดื่ม จำนวน 1 ก๊อก พบเครื่องซักผ้าเก่าแบบฝาเปิดด้านบน ดัดแปลงเป็นเครื่องล้างขวด บรรจุน้ำ/ฝาขวด ในถังเครื่องซักผ้าพบฝาขวดผ่านการใช้งานมาแล้ววางอยู่ในถัง ห้องน้ำ/ห้องส้วม จำนวน 1 หลัง บ่อน้ำบาดาล จำนวน 2 บ่อ และ ถังกักเก็บน้ำ จำนวน 2 ถัง ติดตั้งตะแกรงดักตะกอน
จากการตรวจสอบใบอนุญาตพบว่า 1.สถานประกอบการได้รับอนุญาตประกอบกิจการจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)/สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อย.เลขที่ 5020145420001 สถานะ “คงอยู่” 2.ตรวจสอบเครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตอาหาร พบว่ามีขนาดกำลังเครื่องจักร มีกำลังแรงม้ารวมไม่เกิน 50 แรงม้า และมีคนงาน 1 คน ไม่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานฯ 3.ตรวจสอบบ่อน้ำบาดาล จำนวน 2 บ่อ พบว่าสภาพใช้การได้และเปิดใช้อยู่ ไม่พบรหัสหมายเลขบ่อน้ำบาดาล 4.ตรวจหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ไม่พบมีเอกสารหลักฐานการได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดินฯ และ 5.ตรวจสอบหลักฐานการขอ/ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ไม่ได้ขอ/ไม่มีการอนุญาต
จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน บันทึกเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษ นางดวงเดือน อายุ 52 ปี เจ้าของโรงเรือน/สถานประกอบการโรงผลิตน้ำดื่มปิ่นทอง พร้อมตรวจยึดพื้นที่ป่าขุนแม่ลายภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย ถูกบุกรุก เนื้อที่ประมาณ จำนวน 2 งาน 40 ตารางวา คิดค่าเสียหายของรัฐพื้นที่ป่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 40,800.00 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ ฐาน ““ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
นอกจากนี้ ยังเอาผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน” พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ. 2522 ฐาน “ภายในเขตน้ำบาดาล ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
