สนามข่าว 7 สี - ความคืบหน้ากรณีหุ้นสตาร์ค ซึ่งมีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ล่าสุด ปปง. มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว 16 รายการ มูลค่า 349 ล้านบาท
คดีหุ้นสตาร์ค ผ่านมาเกือบ 5 เดือนที่ ก.ล.ต. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลรวม 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หลังไปพบว่าบริษัท สตาร์ค ตกแต่งงบการเงินของบริษัท เปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และกระทำโดยทุจริตหลอกลวง ซึ่งเสียหายอยู่ที่ราว 35,000 ล้านบาท
โดยดีเอสไอ เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาปลายเดือนนี้ โดยแจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหารบริษัท สตาร์ค และผู้เกี่ยวข้องกับการรับโอนเงิน 12 คน จากนี้จะเรียกผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ มาให้ปากคำ เพื่อดูว่าเกี่ยวข้องกับการตกแต่งบัญชี หรือบกพร่องต่อหลักวิชาชีพหรือเปล่า
รวมถึงยังแยกดำเนินคดีอีก 1 คดี เอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารที่รับโอนทรัพย์สิน กลุ่มรับเงินไปชำระหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบกว่า 10,000 ล้านบาท ซ้ำบางส่วนยังทุจริตโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว
ในส่วน ปปง. ก็อายัดทรัพย์ล็อตแรกในคดี STARK มูลค่า 349 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินสด เงินดิจิทัล ของผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้อง โดยให้เจ้าของทรัพย์สินชี้แจงที่มาของทรัพย์สินใน 90 วัน จากนั้นจะยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อนำทรัพย์ไปเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย ยังเตรียมดำเนินคดีแพ่งแบบกลุ่ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ชดใช้ผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย แต่ประเด็นที่กังวล คือการติดตามตัวอดีตผู้บริหารคนสำคัญที่หลบหนีไปต่างประเทศ และทรัพย์สินที่โอนไปต่างประเทศจะติดตามมาได้อย่างไร
