เป็นเรื่องราวที่หญิงคนหนึ่งได้โพสต์ลงในโซเชียล หลังเธอช็อกหมดสติ เข้าโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด จากการดื่มน้ำน้อยและกลั้นปัสสาวะ
เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ชอบกลั้นปัสสาวะ ทำมานานกว่า 3 เดือน เพราะห่วงทำงาน และตอนตื่นเช้า ก็ไม่อยากลุกจากเตียงมาเข้าห้องน้ำ รวมถึงเธอดื่มน้ำน้อยมาก ไม่ถึงวันละ 2 แก้ว ไม่หิวน้ำก็ไม่ดื่ม จนวันเกิดเหตุหลังเข้าห้องน้ำ กลับมีอาการช็อก รู้สึกปวดตัว ปวดกระดูก หนาวสั่น มีไข้ พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่าติดเชื้อในกระแสเลือด รักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ตอนนี้ดื่มน้ำเยอะขึ้น แต่ก็เข้าห้องน้ำผิดปกติ วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
ขณะที่อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ เผยว่าหากหายป่วยแล้ว ยังปัสสาวะบ่อยอยู่ ก็อาจจะเกิดจากการที่เราดื่มน้ำเยอะขึ้น ส่วนที่ติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะเมื่อไม่ขับถ่ายของเสียออกจากกระเพาะปัสสาวะ แบคทีเรียเพิ่มจำนวนและไม่ระบายทิ้ง ไม่ดื่มน้ำไปชำระล้าง ทำให้กรวยไตอับเสบ และเกิดการติดเชื้อ ร้ายแรงที่สุดคือเสี่ยงเสียชีวิตได้
แพทย์ยังแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว และไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อขับถ่ายของเสียและแบคทีเรีย ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ