ตร.ไซเบอร์ จับขบวนการหลอกเดตสาว ผ่านแอปฯหาคู่ พบเชื่อมโยงอีก 12 คดี ความเสียหายรวมกว่า 1 ล้าน

View icon 88
วันที่ 17 พ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบสาววัย 36 อ้างเป็นติวเตอร์ ชักชวนผู้เสียหายทำภารกิจ นัดเดตสาวในแอปฯหาคู่ หากมีผู้หญิงสนใจแล้วกดแมทซ์ ผู้เสียหายก็จะได้รับเงินค่าคอมมิชชัน แต่ผู้เสียหาย ต้องโอนเงินลงทุนกับคนร้ายไปก่อน สุดท้าย ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก

17 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สอท.1 ได้ร่วมกันจับกุม นางบุญธรรม อายุ 36 ปี ชาวอุบลราชธานี หลังช่วงเดือนธันวาคม 2565 ผู้เสียหาย ได้รู้จักกับคนร้ายผ่านแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ ต่อมาได้เปลี่ยนมาพูดคุยกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์

คนร้ายใช้ชื่อบัญชี “ติวเตอร์'จีจี้” อ้างว่าเป็นติวเตอร์ ได้ชักชวนผู้เสียหายทำภารกิจ นัดเดตสาวในแอปฯหาคู่ โดยออกอุบายว่า ให้ผู้เสียหายสร้างโพรไฟล์ในแอปฯหาคู่ดังกล่าว หากมีผู้หญิงในแอปฯสนใจแล้วกดแมทช์ ผู้เสียหายก็จะได้รับเงินค่าคอมมิชชัน

โดยผู้เสียหายต้องโอนเงินลงทุนกับคนร้ายไปก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำตามอุบายดังกล่าว โดยครั้งแรกได้เงินคืนกลับมาจริง จึงได้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในยอดที่สูงขึ้น สุดท้ายหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวน 6 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 76,115 บาท สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี

หลังเจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย พบว่าคดีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นอีก 12 คดี ซึ่งมีลักษณะในการหลอกโอนเงินทำภารกิจเหมือนกัน มีความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท จนเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องหลายราย

กระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้นำกำลังชุดสืบสวนร่วมกันลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ จนสามารถนำหมายจับศาลอาญาเข้าควบคุมตัว นางบุญธรรม ไว้ได้ โดยให้การอ้างว่า เคยใช้บัญชีธนาคารไปสมัครเกมส์ออนไลน์ แต่ไม่ทราบว่าบัญชีนี้ถูกนำไปใช้หลอกคนอื่นทำธุรกิจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคืนอื่น, โดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี