ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผบ.ตร. เรียกผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และรักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 มาหารือเรื่องผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่อง "สติกเกอร์ส่วย" และการปล่อยปละละเลย ให้มีรถบรรทุกมาตกท่อร้อยสายไฟ ปากซอยสุขุมวิท 64/1 หลังจเรตำรวจรายงานผลกลับมาว่า ไม่พบผู้ที่ปล่อยปละละเลย และเรียกรับส่วยสติกเกอร์
โดย พันตำรวจเอก วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยก่อนประชุมว่า เบื้องต้นได้เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่งทาง ผบ.ตร. มีข้อสงสัยในบางประเด็น และอาจมีข้อสั่งการในบางประเด็น การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีผู้เข้ามาให้ปากคำกว่า 20 ปาก ส่วนใหญ่เป็นการให้ข้อมูลถ้อยคำ ไม่มีใครที่นำหลักฐาน หรือเอกสารเกี่ยวกับส่วยมามอบให้ โดยเฉพาะ ประธานสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย ก็ให้ถ้อยคำระหว่างสอบสวนว่า ไม่มีส่วยรถบรรทุกที่มีรูปสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว และตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวบี ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลแล้วก็ได้นำส่งให้ผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ปล่อยปละละเลยให้มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินเข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เรื่องนี้ พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ชี้แจงว่า ตำรวจท้องที่มีอำนาจหน้าที่ในการกวดขันวินัยจราจร แต่ไม่ได้มีอุปกรณ์หรืออำนาจในการตรวจรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำได้เพียงการกวดขันรถบรรทุกที่วิ่งนอกเวลาที่กำหนด และทำดินตกหล่นบนถนน หลังจากนี้หาก ผบ.ตร. มีประเด็นสั่งการใด ๆ เพิ่มเติมก็จะนำไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่า พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ได้นำแฟ้มเอกสารคดีรถบรรทุกของ สน.พระโขนง มาประกอบการพูดคุยกับ ผบ.ตร. ด้วย
