สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เป็นเรื่องเตือนภัยที่ทำให้ชาวบ้านสุดช้ำใจ นำเงินธนบัตรใบละ 1,000 บาท ไปจับจ่ายซื้อของในงานประจำปีของ อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร สุดท้ายได้เงินทอนเป็นธนบัตรปลอมใบละ 100 บาท จำนวน 4 ใบ ปะปนมากับธนบัตรจริงอีก 4 ใบ โดยไม่รู้ตัว พอนำเงินไปซื้อของที่ร้านค้าถูกปฏิเสธรับเงิน จนเกือบจะถูกแจ้งความเอาผิด
นี่เป็นธนบัตรใบละ 100 บาทปลอม จำนวน 4 ใบ ที่หญิงอายุ 44 ปี เป็นชาวบ้านบ้านเกาะลำไย ตำบลวังบัว อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร นำมาให้เพื่อนบ้านและผู้ใหญ่บ้านดูเพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบความแตกต่างกับธนบัตรจริง พร้อมกับเตือนภัยสังคม ภายหลังรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม เนื่องจากถูกปฏิเสธจากร้านค้าไม่รับธนบัตรจำนวนนี้หลังจากนำไปซื้อของ โดยตอนแรกเธอไม่รู้ว่าเป็นของปลอม จนเกือบจะถูกแจ้งความดำเนินคดี เหตุเกิดในช่วงสายของเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.)
เธอเล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อน ได้ไปเที่ยวงานประจำปีตำบลท่ามะเขือ อำเภอคลองขลุง จัดขึ้นในตอนกลางคืน และได้ไปซื้ออาหารในร้านค้าแห่งหนึ่งภายในงาน เป็นเงินจำนวน 200 บาท โดยได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ให้กับแม่ค้า และแม่ค้าก็ทอนเงินมาให้ 800 บาท เป็นเงินแบงก์ร้อยทั้งหมด เมื่อตรวจนับครบแล้วตามจำนวนจึงได้เก็บใส่กระเป๋าสตางค์และเดินเที่ยวงานต่อ จนกระทั่งเดินทางกลับบ้าน พอรุ่งขึ้นอีกวันได้ไปซื้อของในตัวเมืองกำแพงเพชร แต่กลับถูกปฏิเสธจากคนขายไม่รับเงิน บอกว่า เป็นแบงก์ร้อยปลอมจำนวน 4 ใบ ตนเองจึงตกใจรีบขอโทษคนขาย และได้นำแบงก์ปลอมมาให้ผู้ใหญ่บ้านดูพร้อมกับเปรียบเทียบกับแบงก์ร้อยของจริง พบว่ามีความแตกต่างกันมาก ทั้งกระดาษที่ใช้และสีของธนบัตร และเมื่อนำไปแช่น้ำก็พบว่ามีสีซีดจางลง ขณะที่กระดาษก็ลอกหลุดเป็นขุย
หญิงรายนี้บอกด้วยว่า จะนำธนบัตรปลอมนี้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.คลองขลุง ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับเตือนภัยผู้คนในสังคมเป็นอุทาหรณ์ โดยเฉพาะคนที่ไปเที่ยวงานประจำปีของ อำเภอคลองขลุง ให้ระวังแบงก์ร้อยปลอมกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ หากซื้อของแล้วมีเงินทอนก็ต้องตรวจสอบธนบัตรที่รับมาให้ดีก่อน จะได้ไม่เสียความรู้สึกและตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหมือนกับตนเอง
