เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานได้นำเสนอข่าว คุณย่าคนหนึ่งออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า หลานสาวถูกโชเฟอร์รถตู้โดยสาร ล่วงละเมิดฯ และน่าจะถูกมอมยาจนเสียสติ เพราะแจ้งความไปแล้วเรื่องเหมือนจะเงียบ แต่พอตกเป็นข่าว ทุกหน่วยงานก็วิ่งวุ่น ส่วนโชเฟอร์รถตู้ก็เข้าพบตำรวจเช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธเรื่องที่ถูกกล่าวหา
กรณีดังกล่าว หลังจากที่ย่าของเด็กหญิงอายุ 13 ปี ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้อง เพราะเกรงว่าเรื่องราวหรือคดีที่ไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.แวงน้อย จังหวัดขอนแก่น จะเงียบ
ล่าสุด วันนี้ ตำรวจก็ได้เรียกตัวโชเฟอร์รถตู้ซึ่งเป็นชายอายุ 50 ปี ซึ่งถูกกล่าวหา ไปตรวจร่างกาย และเก็บดีเอ็นเอ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 จังหวัดขอนแก่น พร้อมกับขอนำรถตู้คันที่ไปรับตัวเด็กหญิง ไปตรวจสอบหาหลักฐาน ก่อนจะนำตัวโชเฟอร์รายดังกล่าวไปสอบปากคำ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ กทม. ท้องที่ที่เกิดเหตุ สอบปากคำเพิ่มเติม
ส่วนที่ห้องเช่าของโชเฟอร์ที่ถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ก็ได้ไปขอตรวจสอบเอกสารการใช้รถตู้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร แต่ไม่พบตัวโชเฟอร์เพราะไปให้ปากคำกับตำรวจ เบื้องต้น พบว่ารถจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทางอย่างถูกต้อง และเสียภาษีถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามภรรยาของโชเฟอร์รถตู้ ก็ได้รับคำยืนยันว่าพ่อของเด็กหญิงเป็นผู้เรียกใช้บริการให้พาลูกสาวไปส่งที่ กทม. จริง โดยวันดังกล่าว มีผู้โดยสารนั่งไปเต็มคัน หลังตกเป็นข่าว สามีก็เล่าเรื่องให้ฟัง พร้อมกับบอกว่าไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตนเองก็เชื่ออย่างนั้น เพราะทำอาชีพรถโดยสารมากว่า 10 ปีแล้ว คงจะไปทำเรื่องอย่างที่ถูกกล่าวหาไม่ได้
ส่วนที่โรงพยาบาลขอนแก่น พลตำรวจโท สรายุทธ สงวนโภคัย รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ก็เดินทางไปสอบถามความคืบหน้าอาการป่วยของเด็กหญิง แพทย์แจ้งว่า เด็กหญิงเด็กยังมีอาการไม่ปกติ และไม่พร้อมให้ข้อมูลอะไร ตอนนี้กำลังไล่ตรวจร่างกายทุกส่วน รวมถึงอาการทางสมอง ส่วนการสอบปากคำแบบสหวิชาชีพ ตำรวจบอกว่าคงต้องรอให้เด็กพร้อมมากกว่านี้ โดยเรื่องคดีความ ยืนยันจะดำเนินการเต็มที่
