สาวยันถูก เณรแอร์ หลอก ไม่ได้สมยอมเป็นผัวเมีย

View icon 233
วันที่ 1 พ.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กระแสยังแรงต่อเนื่อง สาวที่ถูก เณรแอร์ หลอกให้ทำพิธีถอนของเขมร ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งเธอก็หลงเชื่อ แต่พอทำไปแล้วกลับไม่ได้ผล จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก วันนี้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่สำนักของเณรแอ ว่ามีสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมนำน้ำมันว่านมหาเสน่ห์ ไปตรวจสอบ

ตร.บุกตรวจของขลัง เณรแอ หาสารอันตราย
จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 26 ปี ได้ขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่า ตัวเธอสงสัยว่าตัวเองโดนคุณไสย จึงไปขอให้ เณรแอ ถอนของให้ แต่เมื่อไปถึงสำนักเณรแอ เณรแอ บอกให้เธอถอดเสื้อผ้า เพื่อลงเสน่ห์ จากนั้นก็มีการล่วงละเมิดทางเพศเธอ ซึ่งตัวเธอก็ไม่ยอม แต่จอมขมังเวทย์รายนี้บอกว่า เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ดีขึ้น จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก

ล่าสุดวันนี้ พันตำรวจเอก อดิเรก ทองแกมแก้ว ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าพบ นายหาญ รักษาจิตร์ หรือ เณรแอ จอมขมังเวทย์ อายุ 63 ปี ที่บ้านย่านสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 150 ตารางวา มีส่วนที่เป็นอาคารชั้นเดียว ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นห้องพิธีของเณรแอ มีแท่นบูชาเทวรูป ฤๅษี เศียรพ่อแก่ กุมารทอง หัวกะโหลกมีเทียนปัก และขี้ผึ้งมหาเสน่ห์ อยู่เต็มห้องหลายพันชิ้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอนำน้ำมันว่าน มหาเสน่ห์ ไปส่งตรวจว่ามีสารอันตรายใดหรือไม่ ซึ่ง เณรแอ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบวันนี้เป็นการขอความร่วมมือตามความสมัครของ เณรแอ ที่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลังถูกกล่าวหา ซึ่งก็ได้เก็บหลักฐานบางส่วนไว้ตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะออกหมายเรียก เณรแอ มาให้ปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่ผู้เสียหายกล่าวหา ตำรวจก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตรวจร่างกาย และพยานแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นความสมัครใจ หรือล่อลวง หรือบังคับข่มเหง ซึ่งตำรวจยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหา เณรแอ แต่อย่างใด

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้สอบถาม เณรแอ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เณรแอ ตอบว่า ตนเองรู้จักกับหญิงสาวรายนี้มาเมื่อปี 2564 เริ่มจากมาขอถอนของ 3 ครั้ง หลังถูกสามีทิ้ง มีใบหย่ามายืนยัน ก่อนจะเริ่มพูดคุยชอบพอกัน แล้วคบหากันฉันสามีภรรยา มีการร่วมหลับนอน ส่งเสียเลี้ยงดู และเช่าบ้าน 2 หลังให้อยู่ โดยหลังล่าสุด จ่ายค่าเช่าเดือนละ 5,000 บาท มานานหลายปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็มีการมาขอเงินตลอด และได้โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเกือบ 1 ล้านบาท ตนเองมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าเช่าบ้าน และแช็ตการสนทนาทั้งหมด แต่ช่วงหลังฝ่ายหญิงได้มาข่มขู่จะเอาเงิน และอ้างว่าท้อง แต่ตนเองได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแล้ว ยืนยันว่าเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงโกหก มีชายอื่นหรือเปล่า จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงยังเรียกร้องเงิน 200,000 บาท แต่ตนเองไม่ยอมจ่ายแล้ว เพราะมองว่าฝ่ายหญิงพฤติกรรมไม่ดี จึงเป็นที่มาที่ฝ่ายหญิงไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนและหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งตนเองมองว่าฝ่ายหญิงอาจมีปัญหาทางจิต

เณรแอ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนที่เมื่อวานนี้ตนเองปฏิเสธว่าไม่รู้จักหญิงคนดังกล่าว โดยว่าจำไม่ได้ เนื่องจากตอนแรกฝ่ายหญิงปิดบังใบหน้า ตนเองจึงจำไม่ได้ เพราะมีลูกศิษย์จำนวนมากเข้ามาหาตนเอง แต่เมื่อตนเองเห็นแช็ตสนทนาที่หลุดออกมา จึงรู้ได้ว่าเป็นอดีตภรรยารายนี้ เพราะส่งเสียลูกศิษย์สาวลักษณะนี้เพียงคนเดียว คบหาจากความรักและสงสาร ไม่ใช่การถอนของเพื่อมีเพศสัมพันธ์ใด ๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ อยากเจอ อยากพูดคุย และถามว่าทำไปเพราะเหตุใด

สาวยันถูก เณรแอร์ หลอก ไม่ได้สมยอมเป็นผัวเมีย
ขณะที่หญิงสาวผู้ร้องเรียน ยืนยันว่า ถูก เณรแอ พูดจูงใจให้ถอนของมนต์ดำ ด้วยการหลอกมีเพศสัมพันธ์ โดยช่วงแรกไม่คิดว่าจะถูกหลอก เพราะมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์อยู่แล้ว จึงยอมให้ เณรแอ กระทำการต่าง ๆ ที่อ้างว่า เป็นการถอนเสน่ห์ 

แต่ยอมรับว่า ช่วงที่เข้าไปถอนของมนต์ดำ เณรแอ มีการให้เงินบ้าง เช่น ค่าเช่าห้อง หรือซื้อโทรศัพท์ให้ แต่เป็นความสัมพันธ์แบบลูกศิษย์ที่เคารพอาจารย์ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์แบบผัวเมีย ตามที่ เณรแอ กล่าวอ้าง