แค่ลดภาษี ยังไม่พอ

View icon 165
วันที่ 1 พ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“สภาผู้บริโภค” กระตุก “พีระพันธุ์” แค่ลดภาษี และ ลดจัดเก็บกองทุนน้ำมัน ยังไม่พอ ต้องคุมค่าการตลาดด้วย คนไทยถึงจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกลง

หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน ลงลิตรละ 1 บาท และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต้องบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาอุดหนุนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เพื่อให้ลดราคาได้ถึง 2.50 บาทต่อลิตรนั้น 

ล่าสุด (1พ.ย.66) น.ส.รสนา  โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค ให้ความเห็นว่า แม้แนวทางการลดราคาน้ำมันเบนซิน ด้วยการลดภาษีสรรพสามิต จะเป็นแนวทางที่สภาผู้บริโภค ได้เคยเสนอต่อนายพีระพันธุ์มาก่อน แต่การลดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน โดยไม่คุมค่าการตลาดน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ ไม่คุมเพดานราคาขายปลีกหน้าปั๊มเหมือนน้ำมันดีเซล เงินส่วนต่างที่รัฐบาบลลดจากภาษีและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะไหลไปลงที่ค่าการตลาด กลายเป็นรายได้ของผู้ค้าน้ำมัน และ จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันไม่ลดลงเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างที่ รมว.กระทรวงพลังงาน และ ประชาชนผู้ใช้น้ำมันคาดหวัง

ดังนั้น สภาผู้บริโภค จึงมีข้อเสนอถึง รมว.กระทรวงพลังงาน ดังนี้

1. ให้ยกเลิกการใช้ E85 เพราะราคาเอทานอลของประเทศไทยสูงกว่าราคาเอทานอลตลาดต่างประเทศและสูงกว่าราคาเบนซินสำเร็จรูปเกินกว่า 6 บาทต่อลิตร
2. ให้เร่งควบคุมค่าการตลาดน้ำมัน ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือ ควบคุมเพดานราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทั้ง 95 และ 91
3. ให้ยกเลิกสูตรราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นอิงราคาสิงคโปร์ได้ แต่ต้องไม่บวกค่าขนส่งทิพย์
4. ให้คุมเพดานราคาเอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันเบนซิน ต้องไม่สูงกว่าราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป เพื่อไม่ให้ราคาแก๊สโซฮอล์ที่หน้าโรงกลั่นสูงเกินควร