เช้าข่าว 7 สี - ทริปซิ่งรถจักรยานยนต์ อ้างงานบุญบังหน้าของแก๊งน้ำไม่อาบ ก็ยังป่วนเมืองไม่เลิก คราวนี้ผู้ร่วมทริป ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุทีมงานแก๊งป่วน ยกรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุขึ้นรถตู้หนีไปหน้าตาเฉย อ้างกับคนเจ็บง่าย ๆ ว่า "เดี๋ยวมาเคลียร์"
ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ด้วยกัน ล้มกลิ้งกลางถนนในพื้นที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ตาม ๆ กันมา จะโบกไม้โบกมือให้สัญญาณว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น
จากนั้นก็มีทั้งผู้ที่หยุดรถ จักรยานยนต์ผู้ที่ขี่รถย้อนศร กลับมายังจุดเกิดเหตุ ไปช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ที่ล้มกีดขวางถนน แล้วสังเกตุช่วงนี้ ที่มีรถตู้สีขาวแล่นเข้ามาจอด เปิดประตูด้านท้ายขึ้น ก่อนจะมีคนช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ของสมาชิกแก๊ง ขึ้นไปไว้บนรถตู้ แล้วรถตู้คันดังกล่าว ก็ขับออกไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ รถจักรยานยนต์ที่เห็นว่าจับกันเป็นขบวนแล่นตามกันมา ไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะเป็นแก๊งเดิม คือ แก๊งน้ำไม่อาบ ที่เมื่อมีโอกาสก็ต้องนัดหมายรวมตัวกันนำรถจักรยานยนต์ออกมาขี่ซิ่งบนท้องถนน อ้างงานบุญ หรือ งานบำเพ็ญประโยชน์บังหน้าทุกครั้ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ตามเส้นทาง
ส่วนภาพที่เห็นก็เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากฝีมือของสมาชิกในแก๊ง ที่พากันซิ่งรถกันเต็มท้องถนน แล้วไปพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ที่มีหญิงสาวอายุ 16 ปี เป็นผู้ขี่ จนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุผู้ที่ขี่รถชน รวมถึงบรรดาสมาชิกแก๊งก็บอกว่า เดี๋ยวมาเคลียร์ แล้วก็หายไปไม่มารับผิดชอบ ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายบอกว่า กิจกรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน แถมยังอ้างงานบุญมาบังหน้า ควรเลิกไปได้แล้ว
สำหรับทริปป่วนเมืองของสมาชิกแก๊งนี้ ให้ชื่อทริปว่าทริปส้มโอภูธร ออกประกาศนัดหมายสมาชิก อ้างว่าเป็นทริปทำบุญ สร้างห้องน้ำ เตาเผาขยะ และไฟส่องทาง ที่โรงเรียนบ้านน้ำมุด ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก กำหนดว่าห้ามขี่รถเร็ว ห้ามผ่าไฟแดง รถแต่ละคันต้องถูกกฎหมาย และย้ำว่าหากเจอด่านตรวจ ก็ให้ขี่รถเข้าด่านไปได้เลย อย่าหลบหนี และ อย่าจอดรถออกันหน้าด่าน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่าตลอดทั้งวันมีอุบัติเหตุตามเส้นทางที่เกิดจากการออกทริปของสมาชิกแก๊งน้ำไม่อาบ ในขณะที่ตำรวจเองก็บอกว่า การรวมตัวกันออกทริปในลักษณะนี้ เป็นลักษณะการไปแบบตัวใครตัวมัน เหมือนการขับขี่แบบตาม ๆ กันไป แต่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ดังนั้นหากผู้ขี่ผู้ซ้อนท้ายไม่ได้ทำผิดกฎหมาย รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก็ไม่ได้ผิด ก็เท่ากับว่าเขามีสิทธิที่จะเดินทางไปไหนก็ได้
