คืบหน้าสถานการณ์สู้รบ อิสราเอล-กลุ่มฮามาส

View icon 130
วันที่ 24 ต.ค. 2566
รอบรั้วรอบโลก
แชร์
อิสราเอลเผยกำลังเตรียมพร้อมสำหรับ "การโจมตีแบบไม่หยุดยั้ง" เพื่อกวาดล้างกลุ่มอามาสให้สิ้นซาก ขณะที่ กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 2 คน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาส (Hamas) ยอมปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 2 คน คือ นางนูริต คูเปอร์ (Nurit Cooper) อายุ 79 ปี และ นางโยเชเวด ลิฟชิซ (Yocheved Lifshitz) อายุ 85 ปี หญิงชราชาวอิสราเอล โดยให้เห็นผลด้านมนุษยธรรมและสุขภาพ ซึ่งทั้งคู่ถูกนำตัวถึงกรุงเทลอาวีฟ แล้ว และจนถึงขณะนี้ มีตัวประกันถูกปล่อยตัวรวมแล้ว 4 คน หลังคู่แม่-ลูกชาวอิสราเอล-อเมริกัน ถูกปล่อยตัวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน อิสราเอล ได้ออกมาขอบคุณทางการอียิปต์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการเจรจาปล่อยตัวประกัน รวมทั้งกาชาดที่มีบทบาทสำคัญในการพาตัวหญิงชราทั้งคู่กลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ทางการอิสราเอล ระบุว่า สามีของทั้งคู่ยังคงถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ โดยนับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มฮามาส ได้จับตัวประกันไว้ที่ฉนวนกาซามากกว่า 200 คน ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตในอิสราเอลแล้วราว 1,400 คน

และตลอดทั้งวัน เมื่อวานนี้ อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศถล่มพื้นที่ฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง โดย กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า อิสราเอลกำลังเตรียมพร้อมสำหรับ "การโจมตีแบบไม่หยุดยั้ง" เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก และจะทำลายกลุ่มฮามาสในทุกที่และทุกวิธีการ พร้อมทั้งส่งสัญญานว่า อิสราเอล เตรียมพร้อมมาอย่างดี สำหรับการโจมตีภาคพื้นดิน

โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ที่จะเจรจาหยุดยิงในขณะนี้ โดยเชื่อว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตนเอง และอิสราเอล ยังมีงานต้องทำอีกมากในการไล่ล่าตัวผู้นำกลุ่มฮามาส

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 436 คน ส่งผลให้ในช่วงสองสัปดาห์หลังการสู้รบเริ่มต้นขึ้น มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5,087 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2,055 คน ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนบางส่วนในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ที่อพยพลงไปทางตอนใต้ เมื่อสัปดาห์ก่อน พากันเดินทางกลับบ้าน แม้จะต้องเสี่ยง และเป็นอันตราย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหาที่หลบภัย อาหาร และน้ำดื่มได้                                                              

เมื่อวานนี้ ขบวนรถขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขบวนที่ 3 จำนวน 20 คัน เดินทางเข้าไปยังเขตฉนวนกาซาแล้ว ผ่านด่านข้ามแดนราฟาห์ (Rafah) ของอียิปต์ โดยมีทั้งอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค แต่สหประชาชาติระบุว่า ยังไม่มีการขนส่งเชื้อเพลิงเข้าไปได้ และเชื้อเพลิงสำรองที่เหลือ จะหมดลงภายในเวลา 2 วันนี้ พร้อมเตือนว่าสถานการณ์ในโรงพยาบาลยังคง "เลวร้าย" และต้องการความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น