แม่ร้องขอความเป็นธรรมลูกน้อยเสียชีวิต

View icon 68
วันที่ 24 ต.ค. 2566
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ เฉพาะการเรียกร้องผ่านเพจ สายไหมต้องรอด กรณีใหญ่ ๆ มีด้วยกัน 2 เรื่องใหญ่ ทั้งการอ้างเป็นโมเดลลิงหลอกลวงเยาวชน และการตั้งข้อสังเกต เป็นเพราะหมอใส่ยาเร่งคลอดหรือไม่ ทำให้หญิงคนหนึ่งต้องสูญเสียลูกสาวที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน

แม่ร้องขอความเป็นธรรมลูกน้อยเสียชีวิต 
นางสาวพิศอาภรณ์ สังข์ทอง อายุ 29 ปี ร้องศูนย์ประสานงานสายไหมต้องรอด หลังแพทย์โรงพยาบาลรัฐ ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าผ่าคลอด 7,000 บาท แต่เธอไม่มีเงิน จึงให้ใช้ยาเหน็บเร่งคลอด หมอใช้ยาถึง 3 ครั้ง กระทั่งทารกลืมตาดูโลกได้ เพียง 2 วัน ก็เสียชีวิต เธอยังคงเก็บศพลูกใส่โลงเย็นตั้งไว้ที่บ้านนาน 1 เดือนแล้ว ยืนยันยังไม่เผาศพลูก จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม

เธอเล่าเรื่องราวพร้อมน้ำตาว่า หลังเหน็บยาเร่งคลอดไป 2 ครั้ง ลูกในครรภ์ยังปกติดี แต่พอครั้งที่ 3 ลูกของเธอก็มีอัตราการเต้นของหัวใจตกลงเรื่อย ๆ จนแพทย์เข้ามาตรวจ บอกว่ารกพันคอ ต้องรีบเอาตัวเข้าห้องผ่าตัด และผ่าคลอดฉุกเฉิน ปรากฏว่าเมื่อลูกคลอดออกมา ก็มีอาการขาดออกซิเจน มีภาวะหยุดหายใจ ปอดแตกจากการสำลักขี้เทา ต้องรีบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เธอมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอมองว่าเกิดจากการรักษาที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการที่แพทย์ให้เธอเหน็บยาเร่งคลอดครั้งที่ 3

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสานศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล และจะประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อผ่าพิสูจน์ศพทารกอีกครั้ง และจะประสาน สปสช. เพื่อช่วยเหลือเงินเยียวยาต่อไป

ระวังโมเดลลิงเถื่อน ลวงทำอนาจาร
ส่วนอีกกรณี นางสาวอิ๋งอิ๋ง สงวนนามสกุล อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เข้าร้องเรียน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นโมเดลลิงภาพยนตร์ชื่อดัง หลอกหลวง กระทำอนาจารผ่านข้อความแช็ต

เธอเล่าว่าได้เข้าไปหางานนักแสดงในกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์ จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งติดต่อเข้ามา อ้างตัวเป็นสาวประเภทสอง เรียกแทนตัวเองว่า "คุณแม่เอ" อ้างเป็นโมเดลลิง คัดเลือกนักแสดง จากนั้นก็ดึงเธอเข้ากลุ่มไลน์ และให้ส่งข้อมูลส่วนตัวเข้ากลุ่ม แต่เธอส่งช้า และแจ้งสมาชิกกลุ่มว่าขอพาพ่อไปด้วยในวันนัดแคสต์งาน จากนั้นถูกประณามต่าง ๆ นานา และถูกลบออกจากกลุ่ม ปัญหาคือ มีการนำชื่อและข้อมูลส่วนตัวของเธอไปประจานในกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์ เธอจึงไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร และนำเรื่องราวทั้งหมดไปโพสต์เตือน

ปรากฏว่ามีคนส่งข้อความมาหาหลายคน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน บอกว่า เคยถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน บางคนถูกแม่เอกระทำอนาจารผ่านข้อความ พูดคุยลามก บางคนไปเจอตัว คุณแม่เอก็ใส่หน้ากากผี ปกปิดใบหน้าตลอดการสนทนา เธอกลัวว่าชายคนนี้จะกระทำการเข้าข่ายค้ามนุษย์ พร้อมทิ้งชื่อเฟซบุ๊กของคุณแม่เอ ที่ใช้ชื่อว่า "ประมวล กิจการดี" เพื่อให้ทุกคนระวังตัว ซึ่งกรณีนี้ทางเพจสายไหมต้องรอด กำลังรวบรวมหลักฐานช่วยผู้เสียหายดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง