สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลการจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งที่เป็นทหารซื้อขายอาวุธปืนในโลกออนไลน์ นำหมายศาลไปตรวจค้น 5 เป้าหมาย ในจังหวัดสกลนคร ส่วนใหญ่ไหวตัวทัน แต่ก็มีอยู่รายหนึ่งที่ถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนและระเบิด ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าซื้อไว้เมื่อ 2 ปีก่อน เพราะชอบเป็นการส่วนตัว
ตำรวจ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ นำหมายศาลไปขอตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในตำบลบงใต้ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร หลังสืบสวนขยายผลมาจากคดีการจับกุม "จ่าเอก" กิตติพงศ์ สังกัดทหารบก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีซื้อ-ขาย อาวุธปืนผิดกฎหมาย แล้วพบว่ามีการส่งพัสดุไปมากับบ้านพักหลังดังกล่าว ก่อนจะเข้าควบคุมตัว นายพงศกานต์ อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน พาตัวไปตรวจค้นหาของกลาง จนไปพบอาวุธปืนดัดแปลง 1 กระบอก ลำกล้องปืนที่ใช้กับกระสุนขนาด .22 และขนาด .38 อย่างละ 1 ลำกล้อง กระสุนปืน 4 ขนาด รวม 131 นัด และระเบิด 1 ลูก จึงยึดไว้เป็นของกลางและทำการจับกุมผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี
ระหว่างการตรวจค้น นายพงศกานต์ ยอมรับว่า ได้ซื้อของกลางทั้งหมดมาจากกลุ่มซื้อขายปืนเถื่อนที่ชื่อว่า "ซุ้มพยัคฆ์เสือกัน" ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนี้ถูกสั่งปิดไปแล้ว หลังตำรวจระดมกวาดล้างจับกุมใหญ่ เมื่อไม่กี่วันก่อน อาวุธปืนและชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่ได้ซื้อมาครั้งเดียว แต่ทยอยซื้อมาเก็บไว้ อ้างว่าไว้ซ้อมยิงปืนที่สนามซ้อม ส่วนวัตถุระเบิดซื้อมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน เพราะความชอบส่วนตัว และอยากรู้ว่าทำงานอย่างไร ยืนยัน ไม่เคยนำของกลางไปใช้ก่อคดีอาชญากรรมแต่อย่างใด
พันตำรวจเอก ธีระ เชื้อสุวรรณ ผู้กำกับการ 4 บก.สอท.3 บอกว่า น่าเสียดายที่ผลการตรวจค้นเป้าหมายอื่น ๆ ไม่พบของกลางที่ได้จากการซื้อ-ขาย อาวุธปืน แต่ก็สืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวไหวตัวตั้งแต่ที่ทราบข่าวว่าตำรวจกำลังมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังมีอีกหลายเป้าหมายที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ส่วนผู้ต้องหารายนี้ได้คุมตัวส่ง สภ.สว่างแดนดิน ดำเนินการตามกฎหมาย
