มือยิงพารากอน โฆษก ศธ. ยังไม่อยากให้ด่วนสรุป-ด่วนโทษ ขณะนี้ผู้ปกครองยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ผู้เยาว์ก่อเหตุ อยู่ในระบบการศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนตามอัธยาศัย ทั่วประเทศมีประมาณ 2 พันแห่ง ย้ำ รร. ควรมีครูแนะแนวและครูอันเป็นที่รัก ผู้ปกครองต้องดูแลใกล้ชิด
ยิงพารากอน วันนี้ (4 ต.ค.66) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ แถลงผลหารือกรณีเด็กอายุ 14 ปี ใช้อาวุธก่อเหตุความรุนแรง ว่า กระทรวงศึกษาธิการขอแสดงความเสียใจ ต่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์น่าสลด วานนี้ (3 ต.ค.66) โรงเรียนต้นสังกัด เป็นโรงเรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนตามอัธยาศัย มีอยู่ในประเทศประมาณกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยสัดส่วนมีนักเรียนประมาณ 800 คน ครูประมาณ 115 คน อยู่ในสัดส่วน 1/7
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมาถอดบทเรียนเพื่อลดความเครียดให้กับทั้งเด็กและครอบครัว ยอมรับว่าสภาวะสังคมในปัจจุบันทั้งผู้เรียนและผู้สอนมีความเครียดจากสภาพสังคม ทางกระทรวงศึกษาที่การก็พยายามหากิจกรรมเพื่อให้ทั้งผู้เรียนและผู้สอนผ่อนคลายมากขึ้น ตอนนี้ยังไม่อยากด่วนสรุปและด่วนโทษ ต้องหาเหตุจูงใจทั้งเรื่องความเครียดจากการเรียน เรื่องเกม รวมถึงปัญหาภายในครอบครัวให้ได้เพื่อระวังที่จะเกิดปัญหาแบบนี้เกิดซ้ำ
เบื้องต้นทางผู้อำนวยการเขต ได้ระบุข้อมูลว่าเด็กอาจมีสภาพทางจิตอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ และทางโรงเรียนก็ไม่ทราบว่าเด็กจะต้องมีการรับยาเพื่อรักษาอาการทางจิตด้วย ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเมื่อผู้เยาว์ก่อเหตุ เป็นคนที่อยู่ระบบการศึกษาอีกแบบหนึ่ง กระทรวงศึกษาจะหามาตรการมาดูแลสถานการณ์ ขณะนี้ได้สอบถามเบื้องต้นจากผู้ปกครองของเด็กผู้ก่อเหตุ ซึ่งวันนี้ทางผู้ปกครองก็ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล
จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเด็กผู้ก่อเหตุอาจมีภาวะติดเกม โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังไม่อยากด่วนสรุปว่าเป็นเพราะเกมที่ทำให้มีการก่อเหตุเกิดขึ้น การยับยั้งหรือดูแลเฉพาะครูและโรงเรียนคงไม่เพียงพอ ควรให้ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด ว่าภายในสมาร์ตโฟนของลูกมีแอพพลิเคชันอะไรที่อาจทำให้เกิดความรุนแรง รวมไปถึงสื่อต่างๆในสมาร์ตโฟนด้วย
“โรงเรียนต้องมีคนที่รู้สภาพเด็ก เน้นย้ำว่าโรงเรียนควรมีครูแนะแนวและครูอันเป็นที่รัก เพื่อให้ทราบถึงการติดต่อสื่อสารกับเด็ก รวมถึงการมีโรงเรียนของผู้ปกครองให้เข้าใจเด็กเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกในอนาคต” โฆษก ศธ. กล่าว
