แอม ไซยาไนด์ ซูบผอม สีหน้าเศร้าเดินเข้าห้องพิจารณาไม่สบตาญาติเหยื่อ

View icon 183
วันที่ 2 ต.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แอม ไซยาไนด์  ซูบผอม สีหน้าเศร้าเดินเข้าห้องพิจารณาไม่สบตาญาติเหยื่อ

แอม ไซยาไนด์ สีหน้าเศร้าเดินเข้าห้องพิจารณา วันนี้ (2 ต.ค.66) บรรยากาศที่ศาลอาญา ภายในห้องพิจารณาคดี 913 ซึ่งมีการนัดประชุมคดี และตรวจพยานหลักฐานครั้งแรก ในคดีของนางสาวสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ตามความผิดข้อหา เจตนาฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยศาลได้เบิกตัว แอม ไซยาไนด์ มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง นอกจากนี้ยังมีจำเลยที่ 2 คือ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ซึ่งเป็นอดีตสามีของแอม ไซยาไนด์ และ จำเลยที่ 3 คือ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ไซยาไนด์ ที่ถูกดำเนินคดีตามความผิด ช่วยกันทำลายพยานหลักฐาน เพื่อช่วยจำเลยที่ 1 ให้พ้นผิด

ขณะที่ฝ่ายโจทก์ มีนายเดชา กิติวิทยานันท์ เดินทางมาพร้อมกับ ครอบครัวของก้อย ผู้เสียชีวิต

เมื่อถึงเวลาพิจารณาคดีตามนัดหมายศาลได้เบิกตัวจำเลยขึ้นมายังห้องพิจารณาคดี โดยทันทีที่ แอม ไซยาไนด์ เดินเข้ามาภายในห้องพิจารณาคดีพบว่า แอม ไซยาไนด์ ซูบผอม สายตาเศร้าหมอง ไม่มองใคร ๆ ที่นั่งอยู่ภายในห้องพิจารณา แต่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เล็กน้อย

หลังจากที่ศาลได้อ่านคำฟ้องไปแล้วนั้น ทนายเดชาได้ยื่นคำร้องให้นางทองพิณ เกียรติชนะศิริ แม่ของก้อย เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ แต่ทนายจำเลยได้คัดค้านการขอเป็นโจทก์ร่วม โดยแถลงว่า นางทองพิณ ไม่ใช่แม่ของก้อย ผู้เสียชีวิต แต่ทนายโจทก์ แถลงต่อศาลว่า แม่ของผู้เสียชีวิตนั้นได้เปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้ง และมีเอกสารในการยืนยัน ต่อมา ศาลพิเคราะห์ หลังตรวจพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่า นางทองพิณ เป็นแม่ของก้อยจริง เนื่องจากหลักฐานทั้งบัตรประชาชน และเลขหมายประจำตัวประชาชน ตรงกัน

ต่อมา ศาลได้สอบถามจำเลยที่ 1 ว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ตามความผิดเจตนาฆ่าคนโดยไตร่ตรอง ซึ่งแอม ไซยาไนด์ ปฎิเสธ ส่วนจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ก็ปฏิเสธ ตามความผิดในการช่วยเหลือ จำเลยที่ 1 ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ได้มีการเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 20 พฤศจิกายนเนื่องจาก ทนายจำเลย แถลงต่อศาล ระบุว่า เอกสารที่ต้องตรวจมีเป็นจำนวนมากและเพิ่งได้เห็นเอกสารในวันนี้จึงขอเลื่อนการพิจารณาไปนัดหน้า

ก่อนเดินทางกลับ นางพิณทอง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้พบกับแอม ไซยาไนด์ ซึ่งแอมไม่ได้มีการพูดคุยหรือขอโทษแม่เลย ส่วนแม่นั้นได้สาปแช่งไป โดยบอกว่า เวรกรรมมีจริง ขอให้เวรกรรมตามสนอง ที่พรากแม่พรากลูกเค้า แต่แอมก็ทำเป็นไม่ได้ยิน