สนามข่าว 7 สี - เอเชียนเกมส์ มีหนึ่งชนิดกีฬาที่ประเทศในอาเซียน มีโอกาสได้เข้าชิงชนะเลิศ และเป็น ไทย ที่ได้เหรียญทองมาแล้วถึง 26 เหรียญ นั่นคือ เซปักตะกร้อ ปีนี้ชิงชัย 4 เหรียญทอง เริ่มกันที่ความหวังในประเภททีมชุดชาย
นับตั้งแต่เริ่มมีการบรรจุแข่งขันตะกร้อในเอเชียนเกมส์ ครั้งแรกเมื่อปี 1990 มาเลเซีย กับไทย คือ 2 ชาติที่ชิงความเป็นเจ้ากีฬาชนิดนี้มาโดยตลอด
หลังจาก มาเลเซีย คว้าเหรียญทอง 2 สมัยแรก หลังจากนั้นไทยกวาดทุกสมัย ตลอดการชิงชัย 8 สมัย 39 เหรียญทอง ไทยได้ไปถึง 26 เหรียญทอง
ความสำเร็จนี้ต้องยกให้กับสมาคมฯ รวมถึงชายคนนี้ "กมล ตันกิมหงษ์" หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาย ที่ไม่เคยพลาดเหรียญทอง นับตั้งแต่รับหน้าที่มากว่า 30 ปี
ในปีนี้ทางเจ้าภาพ จีน ได้ให้ส่งนักกีฬาแข่งขันทั้งหมด 15 คน แล้วไปเลือกก่อนแข่งขันได้ ทำให้มีเวลาที่จะจัดทีมให้ลงตัว โดยเฉพาะทีมชุดชาย จากการเตรียมทีมมายาวนานและต่อเนื่อง ตั้งแต่ซีเกมส์ มาถึง คิงส์ คัพ จนมาเอเชียนเกมส์ พัฒนาทีมผสมผสานผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่อย่างกลมกล่อมและลงตัว ทำให้ทีมพร้อมจะคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้อีกครั้ง
ส่วนความสำเร็จที่สุดนั้น ต้องยกให้ "ปุ้ย" พรชัย เค้าแก้ว หนึ่งในตำนานนักตะกร้อไทย และเอเชียนเกมส์ คว้าไปถึง 10 เหรียญทอง จากการลงแข่ง 5 สมัย นับตั้งแต่ ปูซาน 2002 จนถึงจาการ์ตา-ปาเล็มบัง 2018 หลังประกาศเลิกเล่น และไม่ติดทีมนับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งนี้กลับมามีชื่อติดทีมอีกครั้ง
