ห้องข่าวภาคเที่ยง - ดรามาแย่งเป็นเจ้าภาพจัดงานศพ จากเหตุฆ่ายกครัวที่จังหวัดสมุทรปราการ ยุติแล้ว แต่การไล่ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชนวนของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังไม่จบ ล่าสุดตำรวจรวบบัญชีม้าได้แล้ว 1 คน
ญาติเคลียร์ใจ ฆ่ายกครัว
ไปดูสรุปปมดรามาที่เคลียร์ใจกันจบแล้วสำหรับญาติทั้ง 2 ฝั่ง และมีการขอมือไหว้ขอโทษขอโพยกัน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม โดยยืนยันว่าไม่ได้แย่งกันเป็นเจ้าภาพเพื่อเงิน แต่ทำเพื่ออยากส่งดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ให้จากไปอย่างสงบสุขที่สุด ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จะนำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและพิธีฌาปนกิจที่จังหวัดกำแพงเพชร
สำหรับเงินบริจาค 2.3 ล้านบาท ทางโรงเรียนจะจัดการเองทั้งหมด หลังจากหักค่าใช้จ่ายในงานศพแล้ว
ผู้ก่อเหตุอาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนสามีที่ก่อเหตุสลด อาการปลอดภัยแล้ว ได้มีการวิดีโอคอลมาหาญาติที่งานศพด้วย โดยเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนญาติทั้งสองฝั่งให้อภัยและอโหสิกรรมให้ เพราะที่ผ่านมาสามีผู้ก่อเหตุเป็นคนดี ทำตัวดีมาตลอด ถือว่าเป็นสามีและพ่อที่ดี
บิ๊กโจ๊ก ลุยคดีฆ่ายกครัว ขยายผลรวบบัญชีม้า
สำหรับความคืบหน้าของคดี วันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตัวเอง หลังตำรวจออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องแล้ว 5 คน และสามารถจับได้แล้ว 1 คน ที่จังหวัดสระแก้ว โดยตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสามีผู้ก่อเหตุจะถูกออกหมายจับฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
รวบคาด่าน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เชื่อมโยงฆ่า 3 ศพ จ.สระแก้ว
สำหรับเจ้าของบัญชีม้าที่ถูกจับกุมได้ เป็นผู้หญิงอายุแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง ถูกรวบคาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเลย โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ และที่ด่านอรัญประเทศ ก็จับกุมผู้ร่วมแก๊งชายได้อีก 1 คน ซึ่งเป็นคนกดถอนเงินจากบัญชีม้า
ขณะที่การติดตามเส้นทางการเงินมีการขยายวงการโอนเงินไปสู่แถวที่ 3 พบมีเจ้าของบัญชีเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากเดิมอีก 9 คนโดยวันนี้มีการออกหมายจับเพิ่มเติม 6 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการโยกเงินถึง 36 ครั้ง ลายทางของเส้นเงินตอนนี้ชัดแล้วว่าโอนไปให้กับนายทุนซึ่งอยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ โดยเบื้องต้นได้ประสานทางข้างกับ ทางตำรวจฝั่งกัมพูชาแล้ว
บิ๊กโจ๊ก ฝากเตือนถึงประชาชนด้วยว่า ปัจจุบันการเข้ามาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาในรูปแบบเตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ้องหลอกข้าราชการเกษียณที่หลากหลายมากขึ้น และมีเหยื่อเพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะกลุ่มชาวบ้าน แม้แต่กลุ่มข้าราชการและ คนที่เกษียณอายุแล้วก็ตกเป็นกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะเมื่อสูญเงินไปแล้วยากมากที่จะตามกลับมา แต่ที่อันตรายไปกว่านั้น คือ การสูญเสียชีวิต ที่นับวันจะพบสถิติเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์คิดสั้นเพิ่มขึ้น ดังที่เราเห็นจากโศกนาฏกรรมฆ่ายกครัว 3 ศพ
