แก๊งไนจีเรียลวงให้รักแล้วหลอกโอนเงิน หมุนเงินออกนอก ปท. กว่า 800 ล้าน

View icon 856
วันที่ 25 ส.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โรแมนซ์สแกม แก๊งไนจีเรีย ปลอมโพรไฟล์เป็นทหารอเมริกันหนุ่มหล่อ สาวสวย ลวงให้รักแล้วหลอกโอนเงิน พฤติกรรมหลอกลวงซ้ำซาก 4 ปี พบหมุนเงินออกนอกประเทศกว่า 800 ล้านบาท

ทลายแก๊งไนจีเรีย วันนี้ (25 ส.ค.66) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 14 คน  เป็นชาวไทย 13 คน และชาวไนจีเรีย 1 คน แจ้งข้อกล่วหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาอื่นๆ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจได้เข้าตรวจค้นทั้งหมด 14 จุด ทั่วประเทศ แบ่งเป็นในพื้นที่กรุงเทพฯ 7 จุด ปทุมธานี 1 จุด พิษณุโลก 2 จุด อุทัยธานี 1 จุด อุตรดิตถ์ 1 จุด กำแพงเพชร 1 จุด พิจิตร 1 จุด

สำหรับคดีนี้ ผู้เสียหายได้ร้องเรียนมายังตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ที่มีพฤติการณ์หลอกให้หลงรัก โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหญิงต่างชาติรูปร่างหน้าตาดี แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสาวชาวอเมริกัน ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในประเทศซีเรีย นอกจากนี้ยังสร้างเรื่องราวว่าจะเดินทางมาประเทศไทย เหตุเพราะประทับใจและตกหลุมรักในตัวผู้เสียหายมาก และต้องการจะส่งพัสดุ ภายในเป็นทรัพย์สินมีค่า มาให้กับผู้เสียหาย แต่มีข้อแม้ คือขอให้ผู้เสียหายช่วยชำระค่าภาษีนำของออกจากสนามบินให้ก่อน หลังจะคืนเงินให้ในภายหลังเมื่อผู้เสียหายตกหลุมพรางเชื่อใจเนื่องด้วยความรัก ประกอบกับความสงสาร เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้

ขณะเดียวกันจะมีคนร้ายอีกคนโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยอ้างว่าเหตุผลต่างๆ เช่น เป็นค่าดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทยเนื่องจากเป็นการนำเข้าเงินโดยผิดกฎหมาย ค่าประกันที่ทำสัญญาไว้กับบริษัท ค่าทนายความ ค่าประกันทรัพย์สิน จนสุดท้ายผู้เสียหายไม่มีเงินจ่าย ก่อนที่คนร้ายก็จะตัดการติดต่อไป พบผู้เสียหายสูญเงินไปล้านกว่าบาท

ต่อมาตำรวจสืบสวนเส้นทางการเงิน จนพบว่าเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีคนร้ายได้มีการโอนต่อไปอีกหลายบัญชี ก่อนจะถูกโอนไปยังบัญชีชื่อของ น.ส.ปุณยวีร์ (ผู้ต้องหาที่ 1) จากนั้นถูกโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารในต่างประเทศ

จากการขยายผลพบอีกว่าตั้งแต่ปี 2561 – 2564 มีเงินหมุนเวียนออกไปยังบัญชีในต่างประเทศรวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งพยานหลักฐานทำให้ทราบว่า น.ส.ปุณยวีร์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติไนจีเรีย และยังพบว่ามีเงินโอนมาจากบัญชีของ Mr.Ezeneche (ผู้ต้องหาที่ 2) อีกหลายสิบล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านั้นได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน เมื่อพบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงกันทั้งหมด ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้โอนย้ายคดีของผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งนี้ทุกรายมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ทันที

น.ส.วาสนา (ผู้ต้องหาที่ 3) หนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย ให้การรับว่า ขณะนั้นถูกว่าจ้างมาจากแฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย ซึ่งเจอกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ได้คบหากันแล้ว โดยได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นจากการหลอกลวงดังกล่าว อ้างสาเหตุที่ต้องทำ เพราะช่วงนั้นตนเองไม่มีงานทำ

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบประวัติของ Mr.Ezeneche (ผู้ต้องหาที่ 2 ) พบว่าตั้งแต่ปี 2561 เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงกลับมาก่อเหตุซ้ำซากหลายครั้ง