สว.จัดหนัก เศรษฐา ปมเลี่ยงภาษีขายที่ดิน

View icon 110
วันที่ 22 ส.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สลับมาดูบรรยากาศก่อนที่จะมีการลงคะแนนโหวตนายกฯ มีการอภิปรายกันทั้ง สส. และ สว. เราย้อนไปดูบรรยากาศช่วงการอภิปรายต่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยกันอีกครั้ง

สว.จัดหนัก เศรษฐา ปมเลี่ยงภาษีขายที่ดิน
หลังจาก นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นบุคคลสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีเสียงรับรอง 287 คนแล้วนั้น นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร สว. ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกถึงคุณสมบัติของนายเศรษฐา
 
นายวิวรรธน์ บอกว่า จากการสอบถามเพื่อน ๆ สว. ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า นายเศรษฐา มีประวัติอย่างไรบ้าง จนเกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้ายังไม่รู้จักว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ แล้วเขาจะพาประเทศไปได้อย่างไร ส่วนข้อมูลที่ตนเองหามา พบว่ามีเรื่องราวให้น่าสงสัย กรณีบริษัทแสนสิริ ในยุคที่นายเศรษฐา บริหารมีการซื้อขายที่ดินกับบริษัทอีกแห่ง ที่มีผู้ถือหุ้น 12 ราย ในที่ดินแปลงเดียวกัน

เมื่อตรวจสอบแล้ว 12 คน ได้ถือหุ้นตามสัดส่วน ถือเป็นเรื่องของตัวบุคคล จากนั้น แสนสิริ ก็มาซื้อที่ดินแปลงนี้ โดยซื้อคนละวันกัน ตรงนี้มีเจตนาเพื่ออะไร เพราะเวลาคิดภาษีทีละแปลง ราคาจะน้อยลง จากที่ตกลงซื้อกันในราคา 1,570 ล้านบาท แต่เมื่อแยกแปลงออก ทำให้เสียภาษีเพียง 59 ล้านบาท กรณีนี้ถ้ามีความตรงไปตรงมา ซื้อที่ดินทั้งแปลง โดยไม่แยกส่วน จะเสียภาษีที่ดินอยู่ที่ 580 ล้านบาท เท่ากับหายไป 500 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว ที่ควรเป็นเงินเข้าหลวง นอกจากนี้ นายวิวรรธน์ ยังระบุอีกว่าได้ยินข่าวมาว่าเริ่มมีการแจกกล้วยให้ สว. แล้ว จึงขอพูดตรง ๆ ว่า ถ้าเป็นคนดี ๆ แล้วไม่ชอบ อยากเป็นลิง ระวังผิดคำสาบานจะถูกลงโทษ

ก้าวไกล ไม่โหวตให้ เศรษฐา เหตุต่อลมหายใจ คสช.
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล อภิปรายไม่เห็นด้วยที่จะโหวตรับรอง โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลไม่เห็นชอบ เหตุผลไม่ใช่เพราะไม่รู้จัก หรือไม่มีข้อมูล และไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติ แต่ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดต่อเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง ประชาชนต้องการยุติรัฐบาลและระบบการเมืองที่สืบทอดอำนาจมาจากการรัฐประหารของ คสช. แต่การจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่ความพยายามสลายขั้วความขัดแย้ง แต่เป็นการต่อลมหายใจให้ระบบการเมืองที่ คสช. วางไว้

พล.อ.สมเจตน์ ขอเพื่อไทยเสียสัตย์ ไม่แก้รัฐธรรมนูญ
พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญทันทีที่ประชุม ครม. นัดแรก อยากถามว่า รัฐธรรมนูญปี 60 มีปัญหาอะไรให้เร่งแก้ไข เป็นเพราะรัฐธรรมนูญนี้มีกลไกป้องกันนักการเมืองทุจริตเข้มงวด ทำให้พรรคเพื่อไทยที่มักมีปัญหาทุจริต คนสำคัญบางคนต้องหลบหนีคดี เพราะไม่มีอายุความ จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นจะสนับสนุนนายกฯ พรรคเพื่อไทยได้อย่างไร แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเสียสัตย์ ให้ประเทศสงบ ยืนยันจะไม่เสนอแก้รัฐธรรมนูญทันที แต่จะเสนอในห้วงเหมาะสม เมื่อสังคมสงบสุข การเสียสัตย์ครั้งนี้จะได้รับคำสรรเสริญทำเพื่อประเทศ ถ้าทำเช่นนี้ จะสนับสนุนนายกฯ เพื่อไทย

คำนูณ ไม่เห็นด้วย ตั้ง สสร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นายคำนูน สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ย้ำว่า เมื่อไม่มีพรรคการเมืองที่เสนอแก้ไขกฎหมายที่ล้มล้างสถาบันหลักของชาติ ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแล้ว สว. จึงต้องลงมติตามเสียงข้างมากของรัฐสภา ส่วนนโยบายการตั้ง สสร. เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะสามารถแก้ไขเป็นรายมาตราได้ แต่ถือว่านโยบายนี้เป็นโยบายของทุกพรรคการเมืองที่ควรต้องยอมรับ แต่พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ควรรับฟังความเห็นจากรัฐสภา และกำหนดรูปแบบของ สสร. ให้ชัดเจนโดยต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วย หากทำได้เช่นนี้ก็พร้อมจะยกมือให้กับ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย

ปิดอภิปราย 15.11 น. แจ้งลงคะแนนเปิดเผย
สำหรับคนที่อภิปรายเป็นคนสุดท้าย คือนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นบุคคลสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยหลังจากนายแพทย์ชลน่าน อภิปรายจบนายวันมูหะมัดนอร์ ประธานรัฐสภา ได้ปิดการอภิปรายในเวลา 15.11 น. และแจ้งการลงคะแนนเลือกนายกฯ ด้วยวิธีเปิดเผย ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาเวลาตามกำหนดการที่แจ้งไว้