22 ส.ค. ชี้ชะตา สุเทพ คดีโรงพักทดแทน

View icon 214
วันที่ 20 ส.ค. 2566
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - สถานการณ์การเมืองตอนนี้ น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวันที่ 22 สิงหาคม ที่จะมีไฮไลต์กาเรมืองเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งการกลับไทยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ของ นายทักษิณ ชินวัตร การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และการต่อสู้คดีครั้งสำคัญของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

22 ส.ค. ชี้ชะตา สุเทพ คดีโรงพักทดแทน
วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และพวกจำนวน 6 คน ร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษายกฟ้องในคดีนี้ แต่ต่อมา ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์ และศาลฯ ได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งหากศาลฯ ตัดสินว่า นายสุเทพ ผิดจริงตามคำฟ้อง ก็จะถูกส่งเข้าเรือนจำทันที

ทักษิณ กลับไทย 22 ส.ค. ลงเครื่องที่ดอนเมือง
ส่วนคนที่มีคดีค้างอยู่แล้ว และต้องถูกคุมขังในเรือนจำ อย่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่า กลับไทยแน่นอนในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ โดยจะขึ้นเครื่องบินออกจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปประเทศสิงคโปร์ และเดินทางต่อมาที่สนามบินดอนเมือง ในเวลา 09.00 น.

และยังบอกด้วยว่า เดิมมีกำหนดกลับวันที่ 31 กรกฎาคม แต่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวันหยุด จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 10 สิงหาคม แต่มีคนไปดูฤกษ์ดูยาม ว่าวันที่ 22 สิงหาคม เป็นวันดี ซึ่งแม้ส่วนตัวจะไม่เชื่อ แต่ไม่อยากขัดใจ อยากให้ทุกคนรักกัน อยากให้บ้านเมืองสงบ ขณะเดียวกัน ไม่เลือกกลับในวันที่ 21 สิงหาคม เพราะวันดังกล่าวเป็นวันคล้ายวันเกิดของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร 

ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยืนยัน จะเดินทางไปรับบิดาด้วยตนเอง พร้อมระบุว่า การกลับไทยครั้งนี้ เป็นการเลื่อนเดินทางจากวันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ประกาศไว้ ไม่ใช่การยกเลิก จึงไม่ใช่การพูดเพ้อเจ้อ

และเมื่อครู่ที่เราบอกเรื่อง นายทักษิณ เลือก วันที่ 22 สิงหาคม กลับไทย เพราะเป็นวันดี และก่อนหน้านี้ สว. วันชัย สอนสิริ ก็เคยบอกว่า วันดังกล่าวเป็นวันมงคล วันมหาเสน่ห์

ทีมข่าวเราก็ตรวจสอบเพิ่มกับซินแส ก็เตือนดัง ๆ ว่า ถ้า นายทักษิณ จะกลับมาจริงก็ต้องพร้อมรับผลไม่ดีภายหลัง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า นายทักษิณ จะไม่กลับมา

ชูวิทย์ ไม่เชื่อ ทักษิณ กลับไทย วันที่ 22 ส.ค.
อีกคนที่เห็นตรงกับซินแซ ก็คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ที่เคยพูดว่า นายทักษิณ ยังไม่กลับไทยวันที่ 10 สิงหาคม พอมีข่าวล่าสุดของ นายทักษิณ เรื่องกลับไทย ก็โพสต์ทันที ใจความสำคัญ คือ ไม่เชื่อ นายทักษิณ จะเดินทางกลับในวันนั้นจริง ที่สำคัญคือ อยากให้ประชาชนอย่าสับสน เพราะการเดินทางกลับของ นายทักษิณ เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องส่วนรวม เพียงแค่ทั้ง 2 เรื่อง เกิดขึ้นวันเดียวกันเท่านั้น

ปฏิกิริยาหลัง ทักษิณ แจ้งกลับ 22 ส.ค.66
จากประเด็น 2 เหตุการณ์ใหญ่จะเกิดวันเดียวกัน ก็มีนักวิชาการที่คร่ำหวอดในการวิเคราะห์ทิศทางการเมือง จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก็มองว่า เรื่อง นายทักษิณ จะกลับไทย ไม่ได้เป็นการแย่งซีน หรือ ไม่ให้ค่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่ที่ออกมาส่งสัญญาณ เพราะต้องการเรียกความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน หลังจากเพื่อไทยตกอยู่ในภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ

ตร.พร้อมรับ ทักษิณ หากกลับไทยใน 24 ชม.
ส่วนเรื่องแผนการรับ นายทักษิณ หากเดินทางกลับเข้ามาในไทยจริง พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า จุดสำคัญต้องได้รับการยืนยันจากการท่าอากาศยานก่อน ว่าจะเดินทางกลับมาตามข้อมูลการข่าวจริง ซึ่งตำรวจจะทราบล่วงหน้าประมาณ 24 ชั่วโมง

เมื่อ นายทักษิณ เดินทางมาถึง หน่วยงานด่านแรกที่ต้องรับผิดชอบเข้าไปดูแลความเรียบร้อย คือ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำท่าอากาศยานดอนเมือง และ สน.ดอนเมือง ที่จะต้องอ่านหมายจับให้ นายทักษิณ ทราบ จากนั้นถึงจะให้หน่วยพิเศษที่ดูแลภายในบริเวณสนามบินพาไปจุดรับตัว ก่อนจะนำตัวเดินทางไปยังปลายทาง

ซึ่งปลายทางจะมีอยู่ 2 ที่ หาก นายทักษิณ เดินทางมาถึงไทยก่อน 16.00 น. ปลายทางก็จะพาตัวไปส่งที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อฟังคำพิพากษา และพาตัวไปส่งที่เรือนจำ ตามลำดับ แต่หากเดินทางมาถึงหลัง 16.00 น. เป็นต้นไป ปลายทางจะพาตัวไปควบคุมตัวที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ทางตำรวจจัดเตรียมสถานที่ไว้แทน เพื่อรอเช้าของอีกวัน จึงจะพาตัวไปส่งที่ศาลฯ ตามกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังต้องนัดประชุมกันอีกครั้ง เพื่อประเมินว่า จะจัดกำลังพลเท่าใดในการดูแลความเรียบร้อยจึงจะเหมาะสม และอาจต้องปรับแผนปฏิบัติการ หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีกองเชียร์ ผู้สนับสนุน หรือแม้แต่ผู้ต่อต้าน เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอาจขัดขวางการพาตัวไปดำเนินคดีได้

ลุ้น เศรษฐา ผ่านโหวตนายกฯ หรือไม่ 22 ส.ค.
อีกหนึ่งไฮไลต์ทางการเมือง ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 22 สิงหาคม คือ การประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ซึ่งจะเริ่มประชุมในเวลา 10.00 น.

และจะรู้ผลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย จะได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ประมาณ 17.30 น.

หากทุกอย่างราบรื่น ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็จะเห็นโฉมหน้ารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงภายใน 3 วัน และคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกได้ในช่วงต้นเดือนกันยายน

เอกนัฏ แจงเหตุร่วมรัฐบาล เพื่อไทย ยุติสงครามสีเสื้อ
ส่วนกรณีจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ทำให้แฟนคลับของแต่ละพรรค ออกอาการไม่พอใจ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความถึงผู้สนับสนุนพรรค ชี้แจงเหตุและผลการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า น้อมรับฟัง ทุกเสียงสะท้อน ทุกคำติชม และยอมรับว่า การตัดสินใจที่จะร่วมรัฐบาล เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่าย ต้องเลือกทางที่ดีที่สุด “บนความเป็นไปได้” ส่วนเรื่องโควตารัฐมนตรี ไม่มีความสำคัญเท่ากับหลักการเรื่องการคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112

นายเอกนัฏ ยังประกาศจุดยืน ไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะยังมีคดีค้างอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้ขาดคุณสมบัติได้ พร้อมย้ำว่า ประเด็นปัญหาในอดีตระหว่างคนในพรรคเพื่อไทยและตนเอง คงไม่สามารถไปลบอดีต หรือลืมประวัติศาสตร์ได้ แต่ก็มีสิทธิที่จะ "เลือก" เดินหน้าด้วยความปรองดองสมานฉันท์

สำหรับท่าทีของ สว. ต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น เริ่มมีแนวโน้มว่า สว. บางส่วนจะเห็นชอบชื่อที่พรรคเพื่อไทยเสนอ อย่าง พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ใจความสำคัญว่า เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะรวมเสียงได้ 317 เสียงแล้ว ซึ่งเป็นการจับมือ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เป็นรัฐบาลสามัคคีปรองดอง สลายขั้ว ซึ่งถ้าจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ การเมืองคงถึงทางตัน

ดังนั้น จะไม่ทำตัวเป็น "ไอ้เข้ขวางคลอง" โดยจะลงมติเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และจะได้เริ่มต้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน รวมทั้ง เชื่อว่า จะมี สว. อีกไม่น้อยที่จะเห็นเช่นเดียวกันนี้