ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมื่อวาน นายชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแถลงแฉเพื่อชาติ EP.2 พาดพิงการทำธุรกรรมซื้อที่ดิน ย่านทองหล่อ ของบริษัทแสนสิริ และ นายเศรษฐา ทวีสิน พอแฉกับผู้สื่อข่าวเสร็จ ก็ไปไลฟ์แฉต่อเมื่อคืน ส่วนวันนี้ จะไปยื่นฟ้องเท็จ นายเศรษฐา ที่ศาลอาญา ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้
ไลฟ์สดเมื่อคืนนี้ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 17 นาที สรุปเรื่องราวที่ได้แฉเพื่อชาติ EP.2 ที่คุยกับสื่อมวลชนอยู่เป็นชั่วโมง จุดสำคัญ คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2558 ที่บริษัทในเครือแสนสิริ ให้บริษัทที่มีชื่อแม่บ้าน และ รปภ. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กู้ยืมเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ไปปลดจำนองที่ดิน พร้อมตั้งคำถามย้ำว่า แล้วส่วนต่าง 435 ล้านบาท หายไปไหน ทำไมถึงไม่ชี้แจงในส่วนนี้
เป็นเหตุให้หญิงที่ถูกพาดพิงว่าเป็นแม่บ้าน ต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจ สภ.เชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยทำนิติกรรม หรือธุรกรรม ที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่ว่าเลย พร้อมกับยอมรับว่า เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เคยไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จริง แต่ไปเป็นพนักงานขายของในห้างฯ จากนั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม และไม่ได้ไปทำงานที่ไหนอีก
พอเห็นความจริงนี้ นายชูวิทย์ ก็โพสต์ย้ำเรื่องนี้อีกทีเมื่อเช้าว่า หญิงที่พูดถึง อาจถูกสวมบัตรประชาชน ส่วนชายที่เป็น รปภ. มีชื่อเป็นผู้เซ็นทำนิติกรรม ไม่รู้ว่าเป็นตัวปลอมหรือไม่ จึงตั้งคำถามว่า "อย่างนี้มืออาชีพหรือไม่" ก่อนจะย้ำว่า บ่ายวันนี้ จะไปยื่นฟ้อง นายเศรษฐา ฐานฟ้องเท็จ ต่อศาลอาญา และในฐานะผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากบริษัทแสนสิริ จะไปแจ้งความกับตำรวจในพรุ่งนี้ พร้อมย้ำว่า นี่ไม่ใช่ที่ดินแปลงแรกที่เป็นปัญหา
