สนามข่าว 7 สี - ข่าวการจับกุมยาเสพติดมีให้เราเห็นอยู่ต่อเนื่อง จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด เพราะอะไร เพราะว่าตัวการใหญ่มักอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ที่จับได้เป็นแค่ตัวเล็กตัวน้อย พอหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ก็ยากที่จะไปลากตัวกลับมาดำเนินคดี แต่ล่าสุด สปป.ลาว เตรียมส่งตัวนักค้ายารายใหญ่ให้กับฝั่งไทย ตำรวจ ปส. บินไปแล้วตอนนี้ เพื่อรอรับตัวที่จังหวัดหนองคาย พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้บอกได้เลยว่าแสบมาก
ปส.บินด่วน รับพ่อค้ายาฯ รายใหญ่จาก สปป.ลาว
ผู้ต้องหารายนี้ชื่อว่า นายสัญญา อายุ 39 ปี เมื่อปี 2564 นายสัญญาเคยถูกจับกุม พร้อมกับ นายบุญรอด อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หลังส่งเฮโรอีน 446 กิโลกรัม ไปที่ไต้หวัน ตอนนั้นไต้หวันมีการแถลงข่าวจนโด่งดังไปทั่วโลก เพราะเขาไม่เคยเจอเฮโรอีนจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน รวมมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท
นายสัญญา หลังถูกตำรวจ ปส.จับกุมตัวได้ และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือ ทำสำนวนส่งอัยการ อัยการส่งศาล ผ่านไป 1 ปี ปี 2565 นายสัญญา และบุญรอด ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างรอศาลพิจารณาคดี โดยศาลตีวงเงินประกันคนละ 600,000 บาท พร้อมติดกำไล EM
ผู้ต้องหาหนีคดีค้ายาข้ามชาติ ส่งเฮโรอีนไปไต้หวัน 6,000 ล้านบาท
แต่คนทำผิด เดินทางผิดบางคน ถูกจับแล้วอาจไม่ได้สำนึก หรือรู้สึกผิดอะไร เพราะจากข้อมูลชุดสืบสวนพบว่า นายสัญญา หลังถูกปล่อยตัวกลับมาค้ายาอีก รอบนี้เปลี่ยนจากเฮโรอีนมาเป็นไอซ์ เพราะย่ามใจคิดว่าเคยโดนจับไปแล้ว กำไล EM ก็ติด ตำรวจไม่ได้มาสนใจหรอก สุดท้ายความประมาทเป็นเหตุให้ต้องชดใช้กรรม เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจล่อซื้อไอซ์ 250 กิโลกรัม จากแก๊งค้ายาเสพติด ปรากฏว่านายสัญญามาเจอชุดล่อซื้อด้วยตนเอง มาดูเงินมัดจำ พอเชื่อใจยกหูกริ๊งเดียว อีกวันไอซ์ 250 กิโลกรัม มาส่งทันที
แต่ นายสัญญา ฉลาด ไม่มาส่งไอซ์ด้วยตนเอง ให้ลูกน้อง 2 คนมาส่ง ซึ่งทั้งคู่ถูกจับกุมในวันที่ 18 พฤษภาคม พอรู้ว่าลูกน้องถูกจับ นายสัญญาได้ทำลายกำไล EM ทิ้งที่จังหวัดหนองคาย ก่อนหนีไปกบดานที่ สปป.ลาว แล้วไม่ได้หนีไปเฉย ๆ ยังไปเป็นผู้สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้านอีก จนทาง พลตำรวจเอก ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. บินไปหารือกับทางการ สปป.ลาว จนสามารถจับกุมตัวได้ และเตรียมส่งตัวให้กับทางการไทยในวันนี้
ช่อง 7HD ส่งคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด ผู้สื่อข่าวของเราไปเกาะติดภารกิจการรับตัวผู้ต้องคดียาเสพติดรายใหญ่ นายสัญญา คนนี้ด้วย ความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร ติดตามในข่าวใหญ่ ห้องข่าวภาคเที่ยง เวลา 11.20 น.วันนี้
