หนุ่มอุดรธานีสุดช้ำ แฟนสาวคบซ้อนหลอกยืมเงินลงทุนค้าขาย-ใช้หนี้ เสียเป็นแสน แขนไม่ได้จับ

View icon 2.8K
วันที่ 6 ส.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้โพสต์คลิปวิดีโอไปหาแฟนสาวที่คบหาดูใจกันที่หอพักแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เพราะสงสัยว่าจะคบซ้อน ก็พบรถจักรยานยนต์ผู้ชายที่แฟนสาวบอกว่าเป็นเพื่อนจอดอยู่หน้าห้อง จึงเรียกแฟนสาวออกมาสอบถาม และสรุปว่าคบซ้อน แต่ขอเงินคืน พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ทั้งๆที่เราไม่เคยคิดร้ายใครก่อน ถึงแม้อย่างนั้นก็โดนจนเกือบยืนแทบไม่ไหว #สาวคนดีคนดังเมืองหนองบัวลำภู” โดยในคลิปได้เขียนข้อความว่า “บทเรียนที่แสนแพง คุยกันมาขวบปี เพิ่งรู้ว่าคบซ้อนมาตลอด ทุกอย่างคือการแต่งเรื่อง และโกหกมาตลอด” ซึ่งมีคนเข้าดู แสดงความคิดเห็น และแชร์จำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค. 66) เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายเมฆ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ก่อนบอกว่า เป็นคนเอาคลิปดังกล่าวลงใน TikTok เอง เพราะตนมีความรู้สึกว่าแฟนสาวที่คบกันมาประมาณ 1 ปีกว่า มีท่าทีเปลี่ยนไป หลังยืมเงินตนไปลงทุนค้าขาย และยืมเงินไปส่งหนี้รายวัน ส่งแชร์ รวมเป็นเงินกว่า 137,000 บาท ต่อมาตนเห็นแฟนสาวขายของกับผู้ชายอื่น และนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับชายอื่นขณะตนขี่รถไปส่งอาหารลูกค้า เมื่อสอบถามก็บอกว่าเพื่อน จึงตัดสินใจขี่รถจักรยนต์ไปหาที่หอพัก ก็พบว่ารถจักรผู้ชายจอดอยู่หน้าห้องพัก จึงเรียกแฟนสาวออกมาคุย แต่ก็ไล่ตนกลับ ตนรู้สึกเสียใจ หลังจากนั้นแฟนสาวก็บล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกไลน์ บล็อกไอจี และบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ทำให้ติดต่อไม่ได้อีกเลย แถมไม่ชดใช้หนี้

นายเมฆ บอกอีกว่า ขณะที่ตนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เมื่อปี 2564 ตนรู้จักน้อง น. (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาสาวรุ่นน้อง เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู เป็นสาวสวย และเป็นผู้หญิงในสเปกของตน จากนั้นเพื่อนแนะนำให้รู้จัก จึงได้แอดเฟซบุ๊ก แอดไลน์ และขอเบอร์โทรศัพท์ หลังจากนั้นก็คุยกันทางเฟซบุ๊ก และนัดพบกัน ซึ่งน้อง น.เป็นคนพูดจาไพเราะ ประมาณ 1-2 เดือน น้อง น.ก็ได้มาขอยืมเงินไปลงทุนขายเสื้อผ้าทางออนไลน์ 6,500 บาท เมื่อขายได้กำไรจะคืนเงินให้ ซึ่งตนได้เอาเงินเก็บจากการขับไรเดอร์ทั้งหมดให้น้อง น.ไปลงทุน พอขายเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ไม่ได้คืนเงินตน บอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนค้าขายเครื่องสำอางต่อ

หลังจากขายเครื่องสำอาง ก็ไม่ได้นำเงินทุนมาคืนตน กลับบอกว่าเป็นหนี้นอกระบบ ต้องจ่ายสัปดาห์ 4,000-5,000 บาท ถ้าไม่จ่ายก็ต้องเสียค่าปรับ 500 บาท จากนั้นก็ขอยืมค่าหอพัก 2,500 บาท ค่าทำฟัน 2,000 บาท ค่าลงทุนขายยำมะม่วง ค่างวดรถยนต์ของพ่อ 7,000 บาท ค่าหวย 2,900 บาท และจิปาถะ ซึ่งตนคิดว่าจะกู้เงินธนาคารมาปิดหนี้ให้ จึงได้สอบถามว่าเหลือหนี้กี่บาท เขาบอกว่าเหลือหนี้ 5 หมื่นบาท ตนอยากปิดหนี้ เพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยกัน โดยตนได้ไปกู้เงินธนาคาร 1 แสนบาท แบ่งให้เขา 5 หมื่นบาท นำไปปิดหนี้นอกระบบ และให้แม่กับพี่สาวของตน 3,0000 บาท พอเขาเห็นว่าตนเหลือเงินในบัญชีอีก 2 หมื่นบาท ก็มาบอกว่ามีหนี้เหลือ 2 หมื่นบาท ตนก็ให้ไปใช้หนี้ ซึ่งตนต้องผ่อนชำระหนี้ธนาคารเดือนละ 2,700 บาท นาน 5 ปี

นายเมฆ บอกด้วยว่า หลังจากใช้หนี้ให้หมดแล้ว น้อง น.ก็มาขอเงินตลอด พอตนไม่ให้น้อง น.มีท่าทีเปลี่ยนไป เริ่มพูดจาไม่เพราะ ไปขายยำมะม่วงกับผู้ชายอื่น พอตนเห็นและสอบถามก็จะแสดงอาการไม่พอใจ โดยอ้างว่าเป็นเพื่อน ตนรู้สึกผิดปกติ และเริ่มไม่ไว้ใจ พอถามเอาเงินที่ยืมไป เขาก็จะร้องห่มร้องไห้ เล่าปัญหาชีวิต จะฆ่าตัวตาย สุดท้ายเริ่มตีตัวออกห่าง บางครั้งตนขี่รถไปส่งอาหารให้ลูกค้า ก็พบเขาซ้อนจักรยานยนต์ไปกับผู้ชายอื่น พอถามก็แสดงอาการไม่พอใจ บอกว่าเป็นเพื่อน หลังจากส่งอาหารเสร็จ ตนอยากรู้ความจริงจึงขี่รถไปหาที่หอพัก ก็พบรถจักรยานยนต์ของผู้ชายที่บอกว่าเป็นเพื่อนจอดอยู่หน้าห้อง จึงรู้ได้ทันทีว่าเขาคบซ้อน ซึ่งตนรู้สึกเสียใจเพราะที่ทำดีมาทั้งหมด ก็เพราะรักและจริงใจ ไม่เคยล่วงเกิน จึงได้ถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วกลับบ้าน

จากนั้นพอรู้ว่าตนรู้แล้วเรื่องคบซ้อน เขาก็เริ่มพูดไม่เพราะ แถมบางครั้งด่าถึงบุพการี พอตนทวงเงินที่ยืมไป 137,000 บาท ก็บอกว่าไม่มี จะฆ่าตัวตาย ดรามาไปเรื่อย แถมให้ผู้ชายคนใหม่โทรมาขู่ว่า “ไปทวงเงินผู้หญิงทำไม มีอะไรให้มาคุยกับกู มาด่าผู้หญิงทำไม มาเจอกับกูนี่ ” ตนสืบรู้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวทำงานไปรษณีย์ ตนไม่ได้สนใจว่าจะคืนดีกันหรือไม่ ตนต้องการเพียงเงินที่เขายืมไปเท่านั้น เพราะเขามาเอาเงินจากตนไป ทุกครั้งจะบอกว่าให้ตนช่วย แล้วจะคืนเงินให้ทุกครั้ง จึงไม่ได้ให้ด้วยความเสน่หา จึงต้องคืนเงินตน

นายเมฆ บอกต่อว่า เดือน ก.ย. 65 น้อง น.ได้เดินทางไปรับปริญญา และได้รู้จักกับนักร้องหนุ่มอีสานอินดี้ค่ายดัง ชื่อย่อ ก. และได้บอกเลิกกับแฟนไปรษณีย์ จากนั้นได้ลาออกจากงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี แล้วไปทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น  เพื่อไปคบหากับนักร้องหนุ่มค่ายดัง ซึ่งคาดว่านักร้องหนุ่มจะเปย์น้อง น.หนัก เพราะไปศัลยกรรมหน้าใหม่ และขับรถหรู แต่ตนไม่ได้สนใจเรื่องนั้น สนใจเพียงให้นำเงินที่ยืมไป 137,000 บาท เพราะตนต้องจ่ายหนี้ธนาคาร เคยเห็นนักร้องหนุ่มไลฟ์สดว่า “ถ้ามีหลักฐานว่าน้อง น.เป็นหนี้ ก็ส่งมา จะจ่ายหนี้ให้” ซึ่งตนติดต่อทั้งสองไม่ได้ เพราะโดนบล็อกเฟซบุ๊ก ตนจึงนำคลิปที่ถ่ายหน้าห้องพักมาลง TikTok เพื่อเตือนความจำน้อง น. ให้นำเงินมาใช้หนี้มาคืนเร็วๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง