ในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งคลื่นความร้อน ไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพายุพัดถล่ม ขณะที่ สหประชาชาติเตือนภาวะโลกเดือด ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศเตือน เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยยุคภาวะโลกร้อนสิ้นสุดลง และยุคภาวะโลกเดือด (Global Boiling) เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เดือนกรกฎาคมปีนี้ เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่ง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกไว้
ขณะเดียวกัน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ เตือนว่า มีประชาชนมากกว่า 175 ล้านคน อยู่ภายในประกาศเตือนภัยและคำแนะนำเฝ้าระวังสภาพอากาศร้อนจัด หลายพื้นที่มีค่าดัชนีความร้อนสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ซึ่งหลายเมืองใหญ่ อาทิ ชิคาโก, นิวยอร์ก และฟิลาเดลเฟีย เปิดศูนย์คลายร้อนภายในห้องสมุดและศูนย์ชุมชนให้กับประชาชนได้ใช้งาน ทางการคาดว่าคลื่นความร้อนจะยังคงส่งผลกระทบอยู่จนถึงสุดสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะมีพายุฟ้าคะนองพัดถล่มในช่วงสัปดาห์หน้า
ส่วนไฟป่าในหลายประเทศยุโรป โดยเฉพาะที่กรีซ, โครเอเชีย, โปรตุเกส, ตุรกี, ฝรั่งเศส และอิตาลี ที่ลุกไหม้อย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์เริ่มทุเลาลงแล้ว
ส่วนจีนยังคงต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นทกซูรี ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพื้นที่มณฑลฝูเจี้ยน โดยมีรายงานฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ก่อนที่พายุจะเริ่มอ่อนกำลังลง ขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เพื่อรับมือพายุไต้ฝุ่นทกซูรี โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่กรุงปักกิ่ง มีการประกาศเตือนภัยฝนตกหนักในระดับนี้ พร้อมทั้งมีการระงับบริการขนส่งสาธารณะแล้ว เพื่อความปลอดภัย
