คนร้ายบุกเดี่ยว พังประตูกระจกร้านสะดวกซื้อ ฉกเหล้า-บุหรี่

View icon 86
วันที่ 28 ก.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คนร้ายสวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยว พังประตูกระจกร้านสะดวกซื้อ ฉกเหล้า-บุหรี่ ย่ามใจก่อเหตุถึง 2 รอบ

28 ก.ค. 66 เมื่อเวลา 07.30 น  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ จากพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ริมถนนเทศบาลสาย 4 เทศบาลเมืองขลุง ว่ามีคนร้าย เข้ามาก่อเหตุ บุกทุบประตูร้าน ขโมยทรัพย์สิน ไปหลายรายการ โดยก่อเหตุถึง 2 ครั้ง

หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.เอกลักษณ์ วงสา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ขลุง  พร้อมตำรวจสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบประตูกระจกทางเข้าร้าน ถูกของแข็งทุบจนกระจกแตกเป็นช่องขนาดใหญ่ ขนาดคนสามารถมุดรอดเข้าไปด้านในได้  ตรวจสอบภายในร้าน บริเวณหน้าด้านในประตู พบก้อนหินขนาดใหญ่ ตกอยู่จำนวน 1 ก้อน คาดว่าคนร้าย ใช้เป็นอุปกรณ์ทุบทำลายกระจก ก่อนที่จะมุดเข้าไปลักทรัพย์ ทางตำรวจวิทยาการ ได้ถ่ายภาพและตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน นำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง

จากการตรวจสอบ พบสินค้าภายในร้านหายไปหลายรายการ ประกอบด้วยเหล้า 1 กลม ราคา 317 บาท ,เหล้า 1 แบน ราคา  150 บาท , บุหรี่ ประมาณ 5 ซอ งราคา  375 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปประมาณกว่า 800 บาท ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย เป็นประตูกระจก 1 บาน มูลค่าประมาณกว่า 1 หมื่นบาท

โดยผู้จัดการร้าน ให้การว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะพนักงานกำลังเข้ามาเปิดร้าน พบว่าประตูกระจกมีรอย ถูกของแข็งทุบพังเสียหาย เมื่อตรวจสอบภายในร้านพบมีสินค้าถูกขโมยไปหลายรายการ จึงได้รีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงเวลาประมาณ 23 .17 น. วันที่ 27 ก.ค. 66 มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์ขาสั้น  สวมรองเท้าแตะ ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงินไม่ทราบทะเบียน เข้ามาจอดหน้าร้าน จากนั้นเดินเข้ามานำของแข็งขนาดใหญ่ ขว้างใส่ประตูกระจกจนแตก ก่อนมุดตัวเข้าไปในร้าน ขโมยเหล้ากับบุหรี่ไปโดยใช้เวลา ไม่ถึง 5 นาที

จากนั้น ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากลานจอดรถ เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปตามถนนเทศบาลสาย 4 เทศบาลเมืองขลุง จนเมื่อเวลาประมาณ ช่วงเวลา 23.45 น. คืนเดียวกันคนร้าย ได้ย้อนกลับเข้ามาก่อเหตุขโมยของร้านอีกรอบ ซึ่งเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ จึงได้รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบเพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้าย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการบันทึกภาพ ตรวจสอบร่องรอยหลักฐานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อนำมาประมวลกับภาพกล้องวงจรปิด พร้อมตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี เพื่อเร่งติดตามคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป