ห้องข่าวภาคเที่ยง - เหตุการณ์รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกชิ้นส่วนเครื่องบินโบอิง 747 ไปติดคานรถไฟฟ้าสายสีม่วง ท้องที่จังหวัดนนทบุรี ล่าสุดเจ้าของรถพ่วง ผู้รับจ้างขนย้าย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา กับตำรวจ สภ.บางบัวทอง แล้ว โดยถูกแจ้ง 3 ข้อหา ปรับเงินกว่า 10,000 บาท
ย้อนไปดูภาพรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิง 747 จากจังหวัดระยอง ปลายทางอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ติดอยู่บริเวณคานตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถนนกาญจนาภิเษก อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยชิ้นส่วนช่วงลำตัวเครื่องบินสูงเกิน ประมาณ 10 เซนติเมตร ไม่สามารถผ่านได้ คนขับรถและเด็กประจำรถต้องใช้รถเครนยกลำตัว พร้อมปรับระดับให้ลดต่ำลงมา กว่า 1 ชั่วโมง จึงแก้ไขสถานการณ์และขับต่อไปได้ เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 22 กรกฎาคมนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นของแขวงทางหลวง จังหวัดนนทบุรี พบว่าไม่ได้รับแจ้งการขออนุญาตแต่อย่างใด
ล่าสุด นายคำพันธ์ อายุ 32 ปี พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 33 ปี ผู้รับจ้างและคนขับรถพ่วง 18 ล้อ เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยเขาบอกว่าทุกครั้งที่บรรทุกชิ้นส่วนเครื่องบินจะไม่ขนาดใหญ่เท่านี้ การบรรทุกจะอยู่บนตัวรถ บางครั้งก็จะเป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเล็ก ๆ และไม่ทราบมาก่อนว่าการขนย้ายบนถนนหลวงต้องขออนุญาตด้วย พอรับงานจ้างมา ก็ขับไปส่งให้ลูกค้าเลย ส่วนค่าจ้างก็ขึ้นอยู่กับระยะทาง ขั้นต่ำสุด ประมาณ 7,000 บาท
ด้าน พันตำรวจเอก พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง บอกว่า ได้แจ้ง 3 ข้อหา กับคนขับรถพ่วงรวม 12 คัน คือ ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย, ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร, บรรทุกสูงเกินกว่าที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.จราจร คิดเป็นเงินค่าปรับรวมทั้งหมด 10,500 บาท พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ว่า ก่อนที่จะบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ออกไปบนถนนหลวง อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมทาง โดยเฉพาะสิ่งของที่ยื่นล้ำตัวรถออกมา จะต้องประสานกับตำรวจท้องที่ที่ขับผ่านให้ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร และเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลอื่น
