สนามข่าว 7 สี - วันนี้ (17 ก.ค.) ช่วงเย็น ต้องจับตาการประชุม 8 พรรค ที่ประกาศจับมือตั้งรัฐบาล นัดหารือกำหนดแนวทางร่วมกันในการโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 ซึ่งค่อนข้างเห็นชัดเจนแล้วว่ามีทิศทางที่แตกต่างกัน ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ ก้าวไกล
ก้าวไกล แก้ลำ ผูกแก้ รธน. ม.272 โยงเลือกนายกฯ
หลัง คุณพิธา พลาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา การเมืองก็เรียกว่ามีพัฒนาการเร็วมาก โดยเฉพาะท่าทีจาก พรรคก้าวไกล ที่ชิงออกมาแก้ลำด้วยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ สว. พร้อมแผนคู่ขนาน 2 สมรภูมิตั้งรัฐบาล สมรภูมิ 1 คือ การโหวตเลือกนายกฯ มีแผนเสนอชื่อ คุณพิธา รอบ 2 ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ควบคู่ไปกับการเดินเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถ้าไม่ผ่าน ถึงจะยอมถอยให้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่ถ้าผ่าน มีไทม์ไลน์เลือกนายกฯ กันอีกรอบ ในเดือนกันยายน
เพื่อไทย-ก้าวไกล ส่อแยกทาง ปมดัน พิธา นั่งนายกฯ รอบ 2
ขณะเดียวกัน ท่าทีของ พรรคเพื่อไทย ก็ชัดเจนขึ้นว่า คงไม่ปล่อยให้มีการโหวตชื่อ คุณพิธา ไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมาย ไม่มีหนทางชนะ โดยในวันพรุ่งนี้ ช่วงเย็น ที่จะมีการหารือ 8 พรรค ทาง พรรคเพื่อไทย ก็เตรียมสอบถามถึงความเป็นไปได้ที่ คุณพิธา จะได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน
โดย คุณประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกกับทีมข่าวของเราว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการโยงเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 มารวมกับการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยิ่งทอดยาวออกไป ไม่เป็นผลดีกับประเทศ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ เพื่อไทย เคยเสนอมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
คำว่าวันพรุ่งนี้ ในเสียงของ คุณประเสริฐ หมายถึงวันนี้ (17 ก.ค.) โดย พรรคเพื่อไทย จะประเมินสถานการณ์ก่อน และมีนัดคุยกับ ก้าวไกล นอกรอบ ก่อนที่จะไปหารือกับอีก 7 พรรค ในช่วงเย็น
ทีนี้เรามาดูไส้ในของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก้าวไกล ได้ยื่นไปแล้ว จะสำเร็จจนโหวตผ่านต้องใช้เสียงสนับสนุนอย่างไร เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำยากกว่าการแก้กฎหมายทั่วไป โดยนอกจากต้องได้เสียง 375 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาในปัจจุบัน 749 เสียงแล้ว ยังมีไส้ในคือ ในจำนวน 375 เสียง ต้องมีเสียง สว. 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง
และเสียง สส. จากพรรคการเมืองที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ประธาน รองประธานสภาฯ และรัฐมนตรี อีก 20% ของทุกพรรคการเมืองที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ประธาน รองประธานสภาฯ และรัฐมนตรี มารวมกัน ซึ่งตอนนี้ก็คือ 199 เสียง ต้องหาให้ได้ 20% เท่ากับ 40 คน จึงต้องได้เสียงจากฝ่ายพรรครัฐบาลเดิมมาเติมอีก 40 เสียง หรืออย่างน้อย 30 เสียง กรณีมีเสียงสนับสนุนจากพรรคเล็กใน 8 พรรค ที่ไม่ได้มีตำแหน่งใด ๆ ในขณะนี้มาร่วมโหวตด้วย
และหากเราย้อนประวัติการแก้ไขมาตรา 272 จะพบว่า พรรคเพื่อไทย ประสบความล้มเหลวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทำให้ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเมินว่า การเสนอแก้ไขมาตรา 272 ของ พรรคก้าวไกล ในครั้งนี้ ทำทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แล้วจะทำไปเพื่อประโยชน์อะไร จึงอยากให้โฟกัสไปที่การเสนอชื่อนายกฯ ที่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกรัฐสภามากกว่า
สรุปไทม์ไลน์โหวตนายกฯ รอบ 2 ก็จะไล่ตั้งแต่วันนี้ (17 ก.ค.) ช่วงเย็น 8 พรรค ที่ประกาศจับมือกันตั้งรัฐบาล จะตั้งวงหารือกัน จากนั้นวันที่ 18 กรกฎาคม ประธานรัฐสภา นัดหารือวิป 3 ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายที่ประกาศตั้งรัฐบาล พรรครัฐบาลเดิม และตัวแทนวิปจาก สว. เพื่อกำหนดกรอบการอภิปรายในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นวันที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รอบ 2
สำหรับวันที่ 19 กรกฎาคม นอกจากจะเป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รอบ 2 แล้ว ยังเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมพิจารณาคำร้อง กกต. ที่ขอให้วินิจฉัยสถานภาพความเป็น สส. ของ นายพิธา จากปมถือหุ้นสื่อฯ และขอให้มีคำสั่งให้ นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ด้วย
