ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจนำตัว 3 ผู้ต้องหาชาวเยอรมัน คดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเพื่อนร่วมชาติฝากขัง และเร่งตรวจสอบเรือสปีดโบต ที่เชื่อว่าเตรียมใช้ขนศพไปทิ้งทะเล เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติมทางคดี ส่วนผู้ต้องหาเชื้อชาติปากีสถาน ตำรวจยังสอบเค้นต่อ และยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เค้นสอบเพิ่ม ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน จ.ชลบุรี
ตำรวจ สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี ยังสอบเค้น นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี เชื้อชาติปากีสถาน สัญชาติไทย ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมัน ที่ตำรวจตามไปจับได้ ขณะหนีไปกบดานที่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่จะนำตัวกลับมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.หนองปรือ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจบอกว่าจะต้องสอบปากคำให้ครบทุกประเด็นเสร็จภายในวันนี้ เพื่อที่จะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้
ขณะที่ พ่อ แม่ และพี่ชาย ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้าอาหารทะเล ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย และนายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน บอกกับครอบครัวว่า ไม่ได้ทำ ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังถูกนายโอลาฟ ข่มขู่จะลักพาตัวแฟนสาว และน้องสาวของแฟน ส่งไปขายให้กับแก๊ง Outlaws ที่ประเทศกัมพูชา ด้วย
ฝากขัง 3 ผู้ต้องหา ฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน จ.ชลบุรี
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้นำตัวผู้ต้องหาชุดแรก ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน ทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย นายโอลาฟ ที่ตำรวจระบุว่าเป็นหัวหน้าแก๊งคดีนี้ มีนางเพทรา ที่ถูกระบุว่าเป็นนางนกต่อ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งนางนิโคล ที่พิการขา คนเช่าบ้านที่พบศพ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา
พนักงานสอบสวนบอกว่า จะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ และกลัวผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยนายโอลาฟ กับนางเพทรา ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นทำลายศพ ส่วนนางนิโคล ถูกแจ้งเพียงข้อหาเดียวคือ ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นศพ แต่ในชั้นสอบสวนทั้ง 3 คน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ตรวจสอบสปีดโบต เตรียมขนชิ้นส่วนศพทิ้งทะเล จ.ชลบุรี
ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ยึดเรือสปีดโบต ของนายโอลาฟมาตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี ซึ่งเรือลำนี้ไม่มีเอกสารทะเบียนเรือที่ถูกต้อง จึงไม่สามารถนำไปจอดที่ท่าเรือได้ นายโอลาฟ จึงนำไปฝากที่บ้านเพื่อนสัญชาติเดียวกัน ที่ซอยพระตำหนัก 5 เมืองพัทยา
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า นายโอลาฟ น่าจะเตรียมเรือลำนี้ไว้ขนชิ้นส่วนศพไปทิ้งทะเล เพื่อทำลายหลักฐาน แต่ชุดสืบสวนไปพบศพที่นำไปซ่อนไว้ในบ้านเช่าเสียก่อน จึงเปลี่ยนแผนแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับกุมยกแก๊ง
