ร่างของหนุ่มวัย 24 ปี ที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์สะพานข้ามแยกถล่มถึงบ้านเกิดแล้ว

View icon 4.0K
วันที่ 12 ก.ค. 2566
ข่าวช่อง7HD
แชร์
ร่างของหนุ่มวัย 24 ปี ที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์สะพานข้ามแยกถล่มที่ลาดกระบังกลับถึงบ้านเกิด ที่ จ.เพชรบูรณ์ แล้ว แม่ผู้เสียชีวิต เผย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีคนมาชักชวนลูกชายไปทำงานก่อสร้างทางด่วนในกรุงเทพฯ ลูกชายเห็นว่าเป็นงานที่มีรายได้แน่นอนจึงเดินทางไป ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นลูกชายต้องเสียชีวิต

11 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุสะพานข้ามแยกแถวลาดกระบังได้ถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหลายราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตหนึ่งในนั้นคือนายอรัญ สังขรักษ์ อายุ 24 ปี เป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 4 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดราหุลศรัทธาราม ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน และได้มีพิธีรดน้ำศพในช่วงเย็น(11 ก.ค.2566)ที่ผ่านมา จากนั้นในช่วงค่ำได้มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพตามประเพณี และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 15 ก.ค.2566 นี้ ณ เมรุวัดราหุลศรัทธาราม

นางบรรจง ป้อมสอน อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูก 5 คน คนตายเป็นคนโต มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้มีคนมาชักชวนไปทำงานก่อสร้างทางด่วนในกรุงเทพฯ ลูกชายเห็นว่าเป็นงานที่มีรายได้แน่นอนจึงเดินทางไป จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย กระทั่งเมื่อคืนเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่าลูกชายถูกสะพานถล่มทับเสียชีวิต ทำให้รู้สึกเสียใจมาก เพราะลูกชายตั้งใจที่จะไปทำงานเพื่อส่งเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน

น.ส.อัญชัน ขำหว่าง  อายุ 43 ปี ตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้มาชักชวนนายอรัญไปทำงานก่อสร้างสะพานดังกล่าว และมีชาวบ้านในพื้นที่ไปทำงานด้วยอีกหลายคน ในวันเกิดเหตุนายอรัญและเพื่อนคนงานอีกจำนวนหนึ่ง ทำงานอยู่ในจุดเกิดเหตุ ส่วนตนเองและคนงานอีกจำนวนหนึ่งไปทำงานอยู่จุดอื่น กระทั่งได้รับแจ้งว่าจุดที่นายอรัญทำงานอยู่นั้นได้เกิดถล่มลงมาทับนายอรัญได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

น.ส.อัญชัน ขำหว่าง เปิดเผยอีกว่า ตนได้รับมอบหมายจากบริษัทให้มาดูแลจัดงานศพ โดยบริษัทจะดูแลค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งก็ได้มอบให้กับพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนเงินชดเชยต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะพิจารณาช่วยเหลือในโอกาสต่อไป