สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจ บก.ปคม. นำหมายศาลเข้าจับกุมชายชาวอุซเบกิสถาน ที่ร่วมกับพวกหลอกหญิงสาวซึ่งเป็นคนในชาติเดียวกัน มาบังคับค้าประเวณีที่พัทยา หลังมีผู้เสียหายเข้าขอความช่วยเหลือ จนตำรวจนำกำลังบุกไปช่วยเหลือเหยื่อได้อีก 2 คน
เป็นภาพขณะที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. นำหมายศาลเข้าจับกุม นายนารูส ชาวอุซเบกิสถาน ได้ที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเตรียมเดินทางออกนอกประเทศไทย หลัง มูลนิธิไนท์ไลท์ และองค์กรโอยูอาร์ ได้พาหญิงสาวชาวอุซเบกิสถาน อายุ 19 ปี มาแจ้งความว่ามีกลุ่มคนร้ายหลอกจะพาไปทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กของร้านอาหารแห่งหนึ่งในพัทยา จังหวัดชลบุรี อ้างว่ามีรายได้ดี มีที่พักให้ แต่พอมาถึง กลับถูก นางแซมรัต อายุ 42 ปี คนชาติเดียวกัน บังคับให้ทำงานค้าประเวณี
พันตำรวจเอก พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผู้กำกับการ 2 ปคม. เปิดเผยว่า นายนารูส ได้ร่วมมือกับ นางแซมรัต ให้ นางสาวดิโลรมคน หลอกชักชวนผู้เสียหายมาบังคับค้าประเวณี ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดย นายแซมรัต ซึ่งเป็นแม่เล้าและหัวหน้าแก๊ง ได้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย บังคับให้ผู้เสียหายอดอาหารหากไม่ยอมทำตาม และยังเตรียมบังคับพาตัวไปค้าประเวณีต่อที่ประเทศบาห์เรน จนผู้เสียหายทนไม่ไหว ฉวยโอกาสหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือ และพาตำรวจเข้าตรวจค้น ช่วยเหลือหญิงสาวชาวอุซเบกิสถานอีก 2 คน ที่ถูกหลอกมาเช่นกันได้ที่โรงแรมในพัทยา ก่อนที่ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไว้ และจับกุม นายนารูส ได้
เบื้องต้นจากการสอบสวน เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ยอมรับเพียงว่ารู้จัก นางแซมรัต จริง เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นเพื่อนกับน้องชาย แต่ไม่ได้ร่วมหลอกค้าประเวณีเหยื่อด้วย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน พบว่าคนหนึ่งหลบหนีไปประเทศบาห์เรน ส่วนอีกคนหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย จึงได้ประสานทางการทั้ง 2 ประเทศ ช่วยติดตามจับกุมตัวแล้ว
ขณะที่ทางสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย ก็ยืนยันว่ายินดีให้ความช่วยเหลือทั้งด้านกงสุล และด้านกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิของผู้เสียหายระหว่างกระบวนการช่วยเหลือและการดำเนินคดี รวมถึงจะลงนาม MOU ข้อตกลง เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ และการเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายด้วย
