สนามข่าว 7 สี - ข่าวนี้เป็นอุทาหรณ์ เรื่องเซ็นชื่อค้ำประกันเงินกู้ "พันตำรวจโท" ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วอนช่วยเหลืออุดหนุนอาหารที่ครอบครัวทำขาย เนื่องจากต้องจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูก หลังสอบติดมหาวิทยาลัยมีชื่อ และกำลังจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 3 กรกฏาคมนี้ แต่ครอบครัวขาดทุนทรัพย์ เพราะเป็นหนี้กว่า 2 ล้านบาท จากการค้ำประกันเงินกู้ แทนเพื่อนตำรวจ 2 นาย
"เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ" ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านพักตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านหลังนี้มีสมาชิก 3 คน ประกอบด้วย พันตำรวจโท, ภรรยา และ ลูกสาวอายุ 19 ปี ทั้งหมดช่วยกันทำอาหาร ผัดเส้นจันท์, ผัดมักกะโรนี, สปาเกตตี และกุ้งอบวุ้นเส้นไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในบ้าน และเก็บเป็นทุนการศึกษาของลูกที่กำลังจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้แล้ว แต่ลูกยังไร้ชุดนักศึกษา ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์การเรียน รวมถึงจ่ายค่าเช่าหอพัก
หญิงอายุ 43 ปี เล่าว่า ทุกวันตั้งแต่ 04.00 น. เธอและลูกสาว จะช่วยกันทำอาหารไปขาย ลูกเป็นเด็กดี ขยันเรียน สอบติดภาควิชาวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยถึง 5 แห่ง โดยลูกเลือกเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รับมอบตัวแล้ว แต่เนื่องจากครอบครัวต้องนำเงินทั้งหมดที่มีไปชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ที่สามีไปลงชื่อค้ำประกันให้กับเพื่อนตำรวจ 2 นาย หนึ่งนายเสียชีวิตแล้ว ขณะที่อีกหนึ่งนายหนีราชการ และปฏิเสธใช้หนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้จึงไม่เพียงพอ
หญิงอายุ 19 ปี ระบุ รู้เรื่องทุกอย่างดี เข้าใจและเห็นใจพ่อและแม่มาก คิดเสมอว่าอยากหางานรับจ้างทำงาน หาเงินช่วยเหลือครอบครัวอีกทาง แต่ครอบครัวอยากให้เธอทิ้งการเรียนและใช้เวลา 4 ปีนี้ ศึกษาหาวิชาความรู้ จะได้มีงานที่ดี มีอนาคตที่ดี
พันตำรวจโท เปิดใจทุกวันนี้ต้องรับจ้างเข้าเวร วันหยุดก็ไปรับจ้างทำงานทุกอย่าง เพื่อเสริมรายได้ เพราะเงินเดือนกว่า 45,000 บาท จะถูกหักเพื่อชำระหนี้สหกรณ์ฯ เหลือเงินเข้าบัญชีจริง ๆ เพียง 2,950 บาทเท่านั้น จึงอยากขอธารน้ำใจ ช่วยอุดหนุนอาหารของครอบครัว เพื่อลูกจะได้เรียนหนังสือจบระดับปริญญาตรี ไม่ต้องการเงินบริจาคฟรี ๆ
