ห้องข่าวภาคเที่ยง - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่ง 4 ผู้ต้องหาชาวไทยในคดีค้ามนุษย์ ให้กับทางการมาเลเซีย เพื่อนำไปดำเนินคดี หลังก่อเหตุฆ่าฝังดินแรงงานโรฮีนจา กลางป่าบนเขาแก้ว ในตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา
นี่เป็นอีกภาพประวัติศาสตร์ที่มีการส่งชาวไทย 4 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า แรงงานชาวโรฮีนจา แล้วนำศพไปฝังในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงรัฐเปอร์ริส ประเทศมาเลเซีย มากกว่า 180 ศพ ให้กับทางการมาเลเซียเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี
โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 ตำรวจ และทหาร พบศพผู้เสียชีวิต และศพที่ถูกฝังไว้รวมกันกว่า 30 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่าบนเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และยังขยายผลพบหลุมศพในพื้นที่รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย อีกจำนวน 180 ศพ
จากการสืบสวนทราบว่า ทั้งหมดเป็นศพของชาวโรฮีนจา ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร และหลบซ่อนบริเวณค่ายกักกันดังกล่าว เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งมีการจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหา ที่มีผู้ร่วมขบวนการทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก รวมทั้ง ยังมีการดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่สหพันธรัฐมาเลเซียอีกด้วย
หลังจับกุมผู้ต้องหาตามที่ได้รับการประสานความร่วมมือจากทางการมาเลเซีย ได้ 4 คน จาก 9 คน คือ นายสมพล อาดำ, นายบุญเย็น นีซาละห์, นายอรุณ แก้วฟ้านอก และนายเจ๊ะปา ลาปีอี ทั้งหมดมีสัญชาติไทย
โดยเมื่อวานนี้ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เดินทางมายังสนามบินดอนเมือง เพื่อมารับตัวผู้ต้องหา หลังศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปดำเนินคดีที่มาเลเซีย ตามคำร้องขอ
ขณะที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า นับเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับชาติที่สำคัญอีกครั้ง ระหว่างไทยกับมาเลเซีย
