สนามข่าว 7 สี - ผลการประชุมแก้ปัญหากรณี น้องหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกับโรงเรียน ล่าสุด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเพื่อให้ได้ข้อยุติ ซึ่งจะมีการประชุมนัดหน้าอีกครั้ง โดยระหว่างนี้ น้องหยก ไปเข้าเรียนได้แม้สถานะจะไม่ชัดเจนว่าเป็นนักเรียนหรือไม่
พม. รับเป็นคนกลางคลี่ปม ให้สิทธิเด็กได้เรียนต่อ
อย่างที่เกริ่นตอนต้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนุษย์ หรือ พม. เมื่อวานก็ประชุมร่วมกับผู้แทนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมผู้ปกครอง และครู รวมทั้งทีมสหวิชาชีพ ถึงกรณีของนางสาวหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี มีข้อพิพาทกับโรงเรียนปมการเข้าเรียนโดยไม่มีสถานะนักเรียน
ผลสรุปขั้นต้น พม. จะเข้ามาเป็นคนกลางคลี่คลายปัญหานี้กับทุกฝ่ายให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ซึ่งจะยึดประโยชน์ของน้องหยก และเพื่อนนักเรียนอีก 4,000 คน ในโรงเรียนเป็นสำคัญ รวมทั้งหามาตรการป้องกันการเลียนแบบที่อาจเกิดขึ้นด้วย
และระหว่างนี้ น้องหยก สามารถไปเข้าเรียนได้ตามปกติ แม้จะยังไม่สามารถระบุสถานะนักเรียนของหยกได้ก็ตาม
และจากกรณี น้องหยก อีกประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตกันเยอะ เรื่องการที่มีผู้ปกครองดูแลอาจไม่ครอบคลุมทุกเรื่องจนเกิดเหตุอย่างทุกวันนี้ ก็เกิดคำถาม ตกลงในบ้านเรามีกฎหมายใด หรือ หน่วยงานใด จะเข้ามาช่วยกำกับดูแล การเลี้ยงดูเพื่อให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุดทุกด้านตามสิทธิหรือไม่นั้น
ทีมข่าวของเราตรวจสอบกับอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ก็ระบุว่า พม. มีอำนาจเข้ามาจัดการได้ โดยตั้งผู้คุ้มครองดูแลสวัสดิภาพเด็กขึ้นมาโดยอาศัยอำนาจในกฎหมายคุ้มครองเด็ก
แต่กรณีของน้องหยก ก็อยู่ระหว่างแก้ปัญหาร่วมกันกับทุกฝ่ายหากยังไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาได้ พม. ก็ต้องเข้าไปดำเนินการ
ยื่นหนังสือคืนสถานะนักเรียน ให้นางสาวหยก
นอกจากนี้ เมื่อวาน (20 มิ.ย.) เครือข่ายภาคประชาชน (สหภาพคนทำงาน, กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และเครือข่ายภาคประชาชน) ก็เข้ายื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวง พม. เรียกร้องให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ คืนสถานะนักเรียนให้กับ นางสาวหยก ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขด้วย เพราะเห็นว่าเด็กและเยาวชนทุกคนไม่ควรถูกลิดรอน เลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลด้านความแตกต่างทางความคิดด้วย
