วานนี้ เวลา 20.03 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทรงให้ความสำคัญด้านศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และมรดกโลก อันก่อให้เกิดความรักและความหวงแหน นอกจากนี้ ทรงส่งเสริมงานแสดงต่าง ๆ เช่น ดนตรีคลาสสิก ละครอุปรากร โดยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์วงดนตรี และงานแสดงต่าง ๆ ซึ่งปี 2566 เนื่องในวาระครบ 100 ปี วันประสูติ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้เฉลิมพระเกียรติยกย่องให้ทรงเป็น "บุคคลสำคัญของโลก" ด้านการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) ด้วยทรงปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการ และมีพระปณิธานแน่วแน่ที่จะทำประโยชน์เพื่อประชาชนชาวไทยและสังคมโลก
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมใหญ่ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีคลาสสิกน้อมรำลึกในพระกรุณาคุณวาระครบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้น โดยเป็นการแสดงเปียโนของเซอร์สตีเฟน เฮาฟ์ (Sir Stephen Hough) นักเปียโนระดับโลกชาวอังกฤษ แสดงร่วมกับ วงรอยัลบางกอกซิมโฟนีออร์เคสตรา มี นายแซนเดอร์ เตเปน (Mr. Sander Teepan) เป็นวาทยกร การแสดงประกอบด้วย 4 บทเพลง ได้แก่ โอเวอร์เจอร์ - รัสส์แลน แอนด์ ลุดมิลลา (Overture - Russlan and Ludmilla) ของมิคาอิล กลินกา (Mikhail Glinka), บทเพลงเปียโน คอนแชร์โต หมายเลข 2 (Piano Concerto No 2 in C minor, Op.18) ของเซียร์เกย์ รัคมานีนอฟ (Sergei Rachmaninof), บทเพลงเพลเลเอส เอต์ เมลิซานเด (Pelléas et Mélisande, Op. 80) ของกาเบรียล โฟเร (Gabriel Fauré) และบทเพลง 1812 โอเวอร์เจอร์ (1812 Overture, Op. 49) ของปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี (Piotr Ilyich Tchaikovsk) เมื่อทอดพระเนตรการแสดงจบ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญช่อดอกไม้พระราชทานมอบให้แก่ผู้แทนนักแสดง ด้วย
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสนพระทัยติดตามข่าวเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิก และเสด็จไปทอดพระเนตรการแสดงของนักดนตรีคลาสสิกที่มีชื่อเสียงอย่างสม่ำเสมอ โดยมีพระดำริที่จะพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกของไทยให้ก้าวหน้าขึ้น ในปี 2543 ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้เป็นกองทุนสำหรับนักดนตรีคลาสสิก ชื่อว่า "กองทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาดนตรีของเยาวชน" โดยให้คณะกรรมการส่วนหนึ่งของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ ต่อมา ได้เปลี่ยนเป็น "ทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" เพื่อให้ขอบเขตของการสนับสนุนกว้างขึ้น
