ยิปซี คีรติ เปิดประสบการณ์ เคยไดเอทจนกลายเป็นโรคจิต

View icon 138
วันที่ 19 มิ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยิปซี คีรติ เปิดประสบการณ์ เคยไดเอทจนกลายเป็นโรคจิต พร้อมฝากข้อคิดว่าอย่าแขวนความสุขตัวเองที่ตัวเลขบนตาชั่ง

ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ นักแสดงสาว เปิดใจเรื่องที่เคยไดเอทจนกลายเป็นโรคจิตผ่านไอจีส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า ฝากประสบการณ์ของเราไว้ เป็นอีกทางเลือกนึงเพื่อประกอบการตัดสินใจ ของคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก / ดูแลตัวเองนะคะ ถ้ารู้สึกว่าคลิปนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับใคร ฝากแชร์กันน้า

โดยในคลิปดังกล่าว ยิปซี เล่าว่า “แชร์ประสบการณ์การไดเอ็ท จนกลายเป็นโรคทางจิตค่ะ คือยิปเคยทำคลิปนี้นึงก่อนหน้านี้ ซึ่งเนื้อหาในคลิปได้มีการเมนชั่นที่ยิปไม่ชั่งน้ำหนักเลย ไม่คุมแคล อะไรที่เป็นตัวเลขเป๊ะ ๆ ยิปไม่เอา เพราะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน ทุกคนสามารถไปเสิร์จกูเกิลได้ คือมันเป็นอาการ Eating Disorder มันจะมีหลายประเภทมากเลย เช่น Anorexia , Bulimia , Binge Eating และเดี๋ยวนี้มันคงมีอะไรใหม่ ๆ มาอีกมากมายแล้ว ประสบการณ์ส่วนตัวของยิป อยากมาเล่าเพื่อที่จะให้เป็นทางเลือกในการประกอบการตัดสินใจของคนที่กำลังไดเอท หรือพยายามดูแลรูปร่างตัวเองอยู่

สิ่งที่เราเคยทำก็คือแน่นอนหนึ่งคืองดแป้ง ไม่ใช่ลด งดคือแบบไม่กินแป้งเลย และอดข้าวเย็น ตั้งกฎหลัง 6 โมงฉันจะไม่กินอะไรแล้ว คุมแคล เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นเคยคุมแล้ว พยายามที่จะวันนึงต้องกินไม่เกิน 800-900 แคล หรือแม้กระทั่งช่วงนึง ตอนนั้นที่ย้ายไปอยู่อเมริกา และก็กลัวมาก เพราะของที่อเมริกามีแต่ของอ้วน ชีส พิซซ่า ก็กลัวอ้วน ตอนนั้นพยายามกินแต่แอปเปิ้ล ตอนนั้นคือผอมมาก คือป่วยแหละ ทีนี้ช่วงที่มีอาการทางจิตเป็นยังไง คือเมื่อก่อนยิปจะพยายามอดข้าวเย็น ขาดคาร์ป ออกกำลังกายหักโหมแบบหนัก ๆ เรียกได้ว่าเอาอะไรเข้าตัวน้อยที่สุด และเอาออกให้เยอะที่สุด เพื่อที่จะตื่นมาชั่งน้ำหนักแล้วตัวเลขลดลง สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือจิตเราไปจดจ่อเกี่ยวกับว่า วันพรุ่งนี้เช้าที่ฉันจะตื่นขึ้นมาแล้วต้องเหยียบลงไปในตาชั่ง เลขจะลดลงมั้ย ถ้าฉันพยายามขนาดนี้ สมมุติวันนี้อดอาหารอย่างดี พรุ่งนี้ต้องลดลงดิ แต่ทุกคนเชื่อป่ะ บางทีมันไม่ลด! แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือบางวันข้าวเย็นก็ไม่ได้กินแต่มันเพิ่ม ถึงจุดนั้นแหละมันเป็นจุดที่เรากลายเป็นประสาท  เราเครียดมาก และด้วยความที่เราเป็นเพอร์เฟ็คต์ชันนิสต์ พยายามเอาชนะมัน หรือว่าเราต้องลดอาหารเพิ่ม ต้องออกกำลังกายเพิ่ม ตอนนั้นมัน Messed Up! ไปหมดเลย ก็คือเป็นป่วย

เรื่องทำอาหารกินเองทุกมื้อ กินคลีนจัด ๆ เราผ่านมาค่อนข้างเยอะมาก ๆ ช่วงที่ทำอาหารกินเอง ทานคลีน มันก็จะมีปัญหาของการที่เราเข้าสังคมไม่ได้เลย เพราะมันเหมือนเรากลายเป็นคนกลัวอาหารปกติ ซึ่งนั่นมันกลายเป็นไม่ใช่มายด์เซ็ทที่เฮลท์ตี้แล้ว คนเรามันยังต้องได้ใช้ชีวิต ได้ออกไปกินข้าวกับเพื่อน ยังต้องเข้าสังคมบ้าง ช่วงนั้นเรากลายเป็นไม่อยากเข้าสังคม เพื่อนนัดเราอึดอัด เพราะรู้สึกว่าฉันต้องไปกินอาหารข้างนอก ที่มัน Out of my comfort zone ไม่ใช่อาหารที่เรารู้สึกเซฟ เพราะเราควบคุมไม่ได้ สุดท้ายก็คือทำไม่ได้ เคยโยโย่เพราะกินคลีนจัด ๆ ด้วยนะ ร่างกายเราเหมือนมันช็อค กินคลีนสะอาดมาก ไม่มีโซเดียม อะไรก็ตาม กินอาหารปกติแค่ไม่กี่มื้อก็บวม โยโย่ขึ้นมาเลย

เลยรู้สึกว่าอะไรก็ตามที่เป็นวิธีชีวิตที่สุดโต่งจนเกินไป อะไรก็ตามที่ถ้าคุณคิดไปเลยว่าคุณไม่สามารถทำสิ่งนี้ไปได้ตลอดชีวิตจริง ๆ เราว่าอย่าทำเลย อะไรก็ตามที่สร้างความกดดัน ความเครียดให้กับร่างกายมากเกินไป เราไม่ค่อยแนะนำ มีคนดีเอ็มมาถามเรื่องนี้เยอะมาก ๆ ว่าคาร์ปต้องเท่าไหร่ โปรตีนต้องเท่าไหร่ แคลที่กรัม มันทำให้เรารู้ว่า คนปัจจุบันเป็นเป็นกังวลเรื่องสุขภาพ กับการดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเป็นไปได้ เราก็ไม่อยากให้เขามาอยู่ในจุดที่เราเคยอยู่ มันก็ไม่ใช่จุดที่ดีเลย ใช้เวลานานมากกว่าที่จะก้าวออกมาจากจุดนั้นได้ กว่าจะตัดใจแล้วโยนเครื่องชั่งน้ำหนักทิ้งไป เพราะติดดูตัวเลขมาก ทุกเช้าถ้าเหยียบขึ้นไปแล้วเลขไม่ได้เป็นแบบที่ตัวเองพอใจ ร้องไห้นะ วันนั้นทั้งวันไม่มีความสุข เริ่มต้นทั้งวันไม่มีความสุขเลย เพราะว่าตัวเลข ไม่ใช่แบบที่เราต้องการ”

ยิปซี ทิ้งท้ายว่า “เราไม่อยากให้ความสุขของคุณมันถูกกำหนดไว้ด้วยตัวเลขบนตาชั่ง หรือแม้แต่รูปร่างหรืออะไรก็ตาม หาบาลานซ์ดี ๆ เลือกที่เหมาะกับร่างกายของตัวเองจริง ๆ สุดท้ายดูแลสุขภาพจิตของตัวเองด้วย สำคัญมาก ๆ แค่อยากให้ทุกคนสุขภาพดี และสุขภาพจิตดีด้วย ใครอยากให้แชร์เรื่องอะไรอีก ลองคอมเมนต์มาและหวังว่าคลิปนี้ จะเป็นประโยชน์ให้คนที่เข้ามาดูนะคะ”