เปิดภาพวงจรปิดวินาทีตำรวจอุ้ม นายเป้ ไปที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนถูกเรียกรับเงิน

View icon 1.5K
วันที่ 19 มิ.ย. 2566
ข่าวช่อง7HD
แชร์
เปิดภาพวงจรปิดวินาทีตำรวจอุ้ม นายเป้ ผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บการพนัน จากบ้านพักไปที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนถูกเรียกรับเงิน ในวลีเด็ด "เป้นักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา"

ภาพวงจรปิดที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีสามารถบันทึกภาพ ขณะที่ตำรวจชุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) จังหวัดชลบุรี ควบคุมตัวนายเป้ ผู้ต้องหาในคดีเว็บการพนัน เข้าพบกับพลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจากนายเป้ โดยมีนายต้นและนายบอย เป็นคนต่อรอง และพูดกับนายเป้ว่า "รักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา"

จากภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะนำตัวผู้ต้องหาเข้ามาภายในอาคารตั้งแต่ชั้น 1 มีตำรวจคุมตัวนายเป้ สวมเสื้อสีขาว ก่อนถูกพาขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงานของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ในเวลา 18.51 นาที ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2566  ซึ่งเป็นวันเดียวกัน ที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกลุ่มภายในบ้านพักย่านคลองสามวา

ซึ่งการเข้าควบคุมตัวนายเป้ ที่บ้านพักย่านคลองสามวา และไม่ได้นำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สน.คันนายาว ก่อนพบว่านายเป้ ถูกนำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกทรัพย์สินภายในห้องทำงานของอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งอาจเป็นกรณีแรกที่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังบังคับใช้ พรบ.นี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับบทลงโทษสำหรับตำรวจที่ไม่ทำตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ในมาตรา 22 เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่อง ในขณะจับกุมและควบคุม จนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวน หรือ ปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไป เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถกระทำได้ก็ให้บันทึกเหตุนั้น เป็นหลักฐานบันทึกไว้ในการควบคุมตัว ซึ่งบทกฎหมายใน พ.ร.บ.นี้ไม่ได้กำหนดโทษเอาไว้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ทำผิดก็จะผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่1 ปี ถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ เป็นข้อหาเบื้องต้น แต่หากการสอบสวนพบการกระทำความผิดมากกว่านั้นก็ดำเนินคดีดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐานและพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง