หนุ่มดับสลด! คาหมวกกันน็อก ถูกพ่วง 18 ล้อทับหัว เผยอีก 2 กม. ถึงที่ทำงาน

View icon 245
วันที่ 17 มิ.ย. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชายวัย 48 ปี เสียหลัก! ถูกรถพ่วง18ล้อ ทับหัว ดับสลดคาหมวกกันน็อก เผยอีกเพียง 2 กิโลเมตรจะถึงที่ทำงาน

17 มิ.ย. 66 เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ธนเสฎฐ์  เชาว์เลิศธนกิจ  รองสว.(สอบสวน)  สภ.บางพลี  ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนถนนเทพรัตนขาออกช่องทางคู่ขนาน หลักกิโลเมตรที่ 19  ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ในที่เกิดเหตุ พบร่างของคนขับรถจักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพสวมหมวกกันน็อกไว้ โดยมีรถจักรยานยนต์ ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ส่วนคู่กรณีพบว่าเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยมีนายปัทวี  แสดงตัวเป็นคนขับยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่  จากการตรวจสอบพบกระเป๋าเครื่องมือช่างของผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินยังอยู่ครบ ทราบชื่อคือ นายอนุวัฒน์ อายุ 48 ปี เป็นพนักงานของโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร

จากการไปสอบถาม แม่ค้าขายหมูปิ้ง ซึ่งเป็นนผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุสังเกตเห็นมีรถบรรทุกพ่วงสองคันขับตีคู่กันมา โดยมีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุขับตามหลังมาระหว่างกลางของรถบรรทุกทั้งสองคัน จังหวะชนตนเองมองไม่เห็น เห็นอีกทีคือรถจักรยานยนต์ล้มไถลมาจะเข้าร้านแล้ว พอหันมองก็พบว่า คนขับถูกทับหัวนอนแน่นิ่ง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ด้าน นายรพี ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ตนเองกำลังเดินข้ามสะพานลอยลงมารอขึ้นรถไปทำงาน เห็นเหตุการณ์คล้ายกับที่แม่ค้าหมูปิ้งบอก แต่จังหวะที่รถจักรยานยนต์กำลังจะแทรกกลางระหว่างรถบรรทุก ปรากฎว่ารถบรรทุกที่อยู่เลนขวาได้เบรกชะลอตัว ทำให้รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุต้องหักหลบ แล้วเฉี่ยวชนหางพ่วงรถคู่กรณีจนล้มและถูกล้อหลังของหางพ่วงทับอย่างจัง

ขณะที่ นายปัทวี คนขับรถบรรทุกพ่วงคู่กรณี บอกว่าตนเองกำลังไปขึ้นงานที่บางนากม 19 ฝั่งตรงข้าม พอขับมาถึงที่เกิดเหตุ มองกระจกหลังเห็นว่ารถจักรยานยนต์คู่กรณีเฉี่ยวชนด้านข้างของหางพ่วง ก่อนจะล้มใส่ล้อหลังจนเหยียบซ้ำ ซึ่งตนเองไม่ทันได้เบรก พอรู้ว่าทับคนขับ ก็รีบหาที่จอดข้างทางเพื่อรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ถ่ายรูปลงบันทึกประจำวันและเชิญคนขับไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.บางพลี ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่นเขตของมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวชสถาบันจักรกรีนฤบดินทร์ เพื่อชันสูจน์สาเหตุการตาย โดยคาดว่าผู้เสียชีวิต น่าจะรีบไปเข้างานที่โรงงานซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป