ผลสอบออกแล้ว! พบหลักฐานชัดระดับบิ๊กกรมสรรพสามิตโทรเคลียร์ให้รถขนน้ำมันเถื่อนจริง สั่งพักราชการ พร้อมขยายผลสอบเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ยอมรับสถิติขนน้ำมันเถื่อนเพิ่มสูงขึ้น
ความคืบหน้าการขยายผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต โทรศัพท์เคลียร์ให้กับผู้ขนน้ำมันเถื่อน หลังกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ตร.ทล.) ได้จับกุมรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.308 ขาเข้า ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น
วันนี้ (16 มิ.ย.66) นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ผู้อำนวยการส่วนฯ สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม เป็นผู้โทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์จริงตามข้อกล่าวหา
ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัย อย่างร้ายแรง และพิจารณาว่าหากเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยังปฏิบัติในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการได้ กรมสรรพสามิตจึงมีคำสั่งให้พักราชการ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ และที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตทุกระดับ โดยเฉพาะหลักฐานที่ระบุถึงเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตที่มีการโทรศัพท์มา ขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ดำเนินคดีกับนายสมบัติผู้ขับรถขนน้ำมันเถื่อน เนื่องจากจะเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถนำไปขยายผลเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการตามระเบียบราชการให้ถึงที่สุด โดยไม่มีข้อยกเว้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถิติการจับกุมคดีน้ำมันเถื่อนของกรมสรรพสามิตในปีนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างชัดเจน โดยล่าสุด ช่วง 8 เดือนของปีงบ 66 ตั้งแต่เดือน ต.ค.65-พ.ค.66 สามารถจับกุมได้ 986 คดีคิดเป็นเงินค่าปรับ 37.7 ล้านบาท มีน้ำมันของกลางปริมาณ 4.13 ล้านลิตร แบ่งเป็นเบนซิน 0.13 ล้านลิตร ดีเซล 2.75 ล้านลิตร น้ำมันชนิดอื่นๆ 1.25 ล้านลิตร โดยสถิติเพิ่มจากปี 65 ที่มีสถิติการจับกลุ่มคดีน้ำมันเถื่อนทั้งปีอยู่ที่ 814 คดี คิดเป็นค่าปรับ 30.67 ล้านบาท ปริมาณของกลางรวม 1.63 ล้านลิตร แยกเป็นเบนซิน 0.97 ล้านลิตร ดีเซล 0.31 ล้านลิตร น้ำมันชนิดอื่นๆ 0.35 ล้านลิตร
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ
