อุทาหรณ์! เล่นติ๊กต๊อก จนสูญเงิน 3.5 ล้านบาท จ.นนทบุรี

View icon 202
วันที่ 14 มิ.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มใหญ่ดาวติ๊กต็อก เจอมิจฉาชีพหลอกให้เข้ากลุ่มทำภารกิจ แรก ๆ ได้เงินจริง แต่หลัง ๆ เปลี่ยนอุบายทำทีสอนเทรดหุ้น สุดท้ายสูญเงิน 3.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน

อุทาหรณ์! เล่นติ๊กต๊อก จนสูญเงิน 3.5 ล้านบาท จ.นนทบุรี
นายเอก อายุ 48 ปี อาชีพ shipping ดูแลเรือขุดเจาะน้ำมัน หนุ่มดาวติ๊กต๊อกที่มียอดคนติดตามเป็นจำนวนมาก เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกมิจฉาชีพทักข้อความผ่านติ๊กต็อก สุดท้ายโดนหลอกสูญเงินเกลี้ยงบัญชี

นายเอก เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา มีคนทักเข้ามาที่ติ๊กต๊อกของตนเอง ชักชวนเข้ากลุ่มทำภารกิจให้ดูยูทูป ดูติ๊กต็อก เพื่อปั่นยอดคนดู ปรากฏว่าก็ได้เงินจริง จากนั้นอีกฝ่ายก็ชวนให้ตนถ่ายคลิปให้โดยจะให้คลิปละ 15 บาท ตนจึงลองส่งคลิปไปให้ดู 3 คลิป ก็ได้เงินตอบแทนกลับมาจริง ๆ ต่อมามิจฉาชีพได้ชวนให้ตนลงทุน ซึ่งอ้างว่าจะได้กำไรมากกว่าทำคลิป โดยลงทุนครั้งแรก 100 บาท จะได้คืน 130 บาท ถ้าลงทุน 200 บาท ก็จะได้ 260 บาท ก่อนจะแนะนำให้ตนเองสมัครลิงก์ในโปรแกรมเป็นเงิน 500 บาท เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการโอนเงินผ่านระบบลิงก์

ต่อมาทางมิจฉาชีพได้ชักชวนให้ตนเองลงทุนเทรดหุ้น โดยจะได้ผลตอบแทนถึง 60% ตนจึงลงไปก่อน ครั้งแรก 5,900 บาท ก็ได้กำไรกลับมาอยู่ในบัญชี จึงได้เริ่มลงทุนไปอีก เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 19,000 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 250,000 บาท ทางมิจฉาชีพ อ้างว่า ตนเองทำผิดขั้นตอนระเบียบ รวมทั้งต้องเสียค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ไม่สามารถถอนเงินออกไปได้ ให้ตนโอนเงินเข้าไปอีกหลายครั้ง

ต่อมาวันที่ 4 มิถุนายน ตนโอนเงินเข้าไปอีก 490,000 บาท ทางมิจฉาชีพก็อ้างว่ายังไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ จนกระทั่งวันที่ 7 มิถุนายน ตนได้โอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ อีกหลายครั้ง รวมทั้งหมด 12 ครั้ง ยอดเงินที่สูงที่สุดคือ 1.7 ล้านบาท จนยอดเงินรวมอยู่ที่ 3.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน

ตนพยายามจะขอเงินต้นคืน แต่อีกฝ่ายอ้างว่า ยังไม่สามารถถอนได้ เพราะต้องรอเสียภาษี และค่าธรรมเนียม รวมทั้งพยายามโน้มน้าวให้ตนโอนเงินเข้าไปอีก จนรู้สึกเอะใจว่าน่าจะถูกหลอกแน่ จึงเดินทางมาร้องเรียนกับ ทนายรณรงค์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ ยอมรับว่าตอนนี้เครียดมาก เคยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ก็นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังก็เลยตัดสินใจอยู่ต่อ และคงต้องทำงาน หาเงินใช้หนี้ที่หยิบยืมมาจากพรรคพวก และเงินส่วนตัวที่เก็บไว้ก็หมดไปในครั้งนี้

อดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยคนไทยหลอกง่าย
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กสืบนครบาล ได้มีการโพสต์คลิปเสียงอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยชัด "คนไทยหลอกง่ายสุดในเอเชีย" แถมเย้ยแค่มีเงินก็เลี้ยงตำรวจได้

โดยคลิปนี้เป็นบทสนทนาของผู้ที่เคยทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) ในประเทศกัมพูชา ได้พูดถึงมุมมองและค่านิยมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีต่อคนไทย โดยในคลิป บอกว่า คนไทยหลอกง่ายที่สุดในเอเชีย ทีมงานจะไล่ทำของคนไทยก่อน หลอกคนไทยเสร็จ ได้เงินมา ก็จะไปหลอกชาวจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ และกำลังเตรียมการหลอกชาวมาเลเซีย

อดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกอีกว่า ในขณะที่ทำงานมีความคิดความเชื่อว่า มันไม่ใช่เงินพ่อแม่เรา เราโกหกคนที่เราไม่รู้จัก โดยอ้างว่าคนจีนเป็นคนสอนมา ทั้งนี้ยังอ้างอีกว่า มีการบอกให้เชื่อว่า เรามีเงิน เราทำอะไรก็ได้ ตำรวจอะไรเราก็เลี้ยงได้ จะไปหาใคร ต้องมีเงินก่อน อย่าไปกลัว ให้กลัวว่าเราไม่มีเงินดีกว่า

โดยที่ผ่านมาทางสืบนครบาล ได้ออกมาเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยุคใหม่หลายครั้ง เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์  มีการทำการบ้านมาก่อน รู้ข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เหยื่อหลายรายหลงเชื่อ หากประชาชนท่านใดได้รับสาย โปรดอย่าหลงเชื่อ ให้ยึดหลัก "ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน" เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่อให้เปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร แต่สิ่งที่มิจฉาชีพพวกนี้ไม่เคยเปลี่ยนไป คือ รูปแบบการหลอกลวง ที่เน้นความรู้สึกของเหยื่อ ทำให้เหยื่อเกิดความกลัว ความโลภ ความรัก และความหลง