เวลา 16.36 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8, ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
เวลา 17.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 8 อำเภอเมือง ทรงวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 8 ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย แล้วทรงศีล เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีล จบ เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางลงในหลุม จากนั้น ทรงเปิด "อาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 8" เสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์ภาค พุทธศักราช 2532 และมีพระราชกฤษฎีการเปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคารศาลแขวงพระนครใต้ และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2543 ได้ย้ายที่ทำการไปยังอาคารศาลอุทธรณ์ ต่อมา มีพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนที่ตั้งเขตศาล และวันเปิดทำการของศาลอุทธรณ์ภาค ฉบับที่ 8 พุทธศักราช 2554 เพื่อกระจายที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาคไปยังส่วนภูมิภาค สำหรับอำนวยความสะดวกและความยุติธรรมแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคอย่างทั่วถึง โดยได้ย้ายที่ตั้งศาลอุทธรณ์ภาค 8 จากกรุงเทพมหานคร มายังจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ซึ่งมีที่ตั้งร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต
และในปี 2560 สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ดำเนินการอนุมัติก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 8 หลังใหม่ บนที่ดินราชพัสดุ โดยมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส เป็นอาคารสูง 5 ชั้น มีเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย เหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมแก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีเขตอำนาจศาลในภาคใต้ตอนบน จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่, จังหวัดชุมพร, จังหวัดนครศรีธรรมราช, จังหวัดพังงา, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดระนอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับ โรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ออกหน่วยให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎร รวมทั้ง มีเจลแอลกอฮอล์และพิมเสนน้ำพระราชทาน พร้อมจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไปทรงเปิดอาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หลังใหม่ ในพื้นที่ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต ตำบลตลาดเหนือ โดยตลอด 2 ข้างทางที่เสด็จพระราชดำเนิน มีราษฎรมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ซึ่งทุกคนต่างพร้อมใจกันโบกธงพระปรมาภิไธย "ว.ป.ร." และ ธงพระนามาภิไธย "ส.ท." พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ด้วยความปลื้มปีติที่ได้ชื่นชมพระบารมี
