(วันที่ 4 มิ.ย.66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย และ ผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ก. พรรคเพื่อไทย เช่น นางสาวจิรัชยา สัพโส. ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมแต่งกายแนวแดร็กควีน ร่วมเดินขบวนใน Bangkok Pride Parade 2023
ขบวนของพรรคเพื่อไทยตกแต่งด้วยนกฟีนิกส์ หมายความ ถึงความเป็นนิรันดร์ ไม่มีวันตาย การต่อสู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย
นกยูง คือ ความสวยงามของทุกคน, ผีเสื้อ แทนความหลากหลายของเพศที่มีสีสรรค์ , ดอกกุหลาบสีรุ้ง แทนความงามและความอดทนของผู้มีความหวังของสมรสเท่าเทียม
นอกจากนี้ ยังมีป้ายสนับสนุนแนวนโยบายเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ของพรรคเพื่อไทยในหลายด้าน เช่น สมรสเท่าเทียม, ต้องมีสวัสดิการฮอร์โมนข้ามเพศ, วัคซีน HPV ฟรี ทุกเพศทุกวัย, Sex work is work, เกณฑ์ทหารสมัครใจ, ขยายวันลาคลอดและมีวันลาข้ามเพศ, Free pads for all ผ้าอนามัยฟรีสำหรับทุกคน, Decriminalize pornography and sextoy หรือลดทอนอาชญากรรมของสื่อลามกและเซ็กส์ทอย และสนับสนุนเสรีภาพเลือกคำนำหน้านาม เป็นต้น
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เห็นได้จากนโยบายตั้งแต่ช่วงหาเสียง ที่เราสนับสนุนสมรสเท่าเทียม รวมทั้งจะผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศให้เกิดขึ้นให้ได้แน่นอนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้สำเร็จ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ได้พูดคุยเจรจากันในรายละเอียดแล้ว และเชื่อว่าเมื่อมีการรับรอง ส.ส. และกระบวนการทางสภาแล้วเสร็จ การนำร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเข้าพิจารณาทันทีที่เปิดสภา จะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำงานของรัฐบาลชุดต่อไป
ทั้งนี้ ตนมองว่าทุกคนมีสิทธิ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง มีชีวิตของตัวเอง ที่สามารถเลือกได้ว่าเราจะไปทางไหน เพศต้องไม่ใช่ข้อจำกัด หรือตัวกำหนดในการใช้ชีวิตอีกต่อไป
นายชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขบวนของพรรคเพื่อไทยที่มาร่วมงาน Bangkok Pride Parade 2023 มีทั้งรถแห่ตกแต่งอลังการ มีคนในพรรคมาร่วมงานมากมาย มีป้ายข้อความที่พูดเรื่องสิทธิ และสวัสดิการเพื่อประชาชนทุกคน ซึ่งรวมไปถึง LGBTQ+ ด้วย โดยเฉพาะการสนับสนุนและร่วมผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นอีกวิวัฒนาการของกฎหมายไทย ที่จะครอบคลุมถึงชีวิตประชาชนมากขึ้น เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประกอบด้วยบทบัญญัติ 6 บรรพ ล้อไปตามช่วงชีวิตของมนุษย์การดำรงชีวิตในสังคม เกิดเป็นบุคคล ครอบครองทรัพย์สิน ดำรงชีวิต ทำนิติกรรม สร้างเนื้อสร้างตัว กู้ยืม หนี้สิน เช่าซื้อขาย จ้าง ตั้งบริษัทสมาคม แล้วสร้างครอบครัว มีลูก จนเสียชีวิตและจัดการเรื่องมรดก และนับแต่เริ่มมีผลใช้บังคับครั้งแรกใน พ.ศ. 2468 ป.พ.พ. ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว 19 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2555 เพื่อให้กฎหมายครอบคลุมชีวิตของประชาชนมากขึ้น เฉพาะบรรพ 5 ที่ว่าด้วยครอบครัว ที่เกี่ยวข้องกับการสมรสนั้น มีการแก้ไขถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดคือใน พ.ศ. 2519 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดสำนึกชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
เมื่อคำนึงถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ครั้งล่าสุดของการแก้ไปบรรพ 5 ใน พ.ศ. 2519 จนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 46 ปี สังคม วิถีชีวิต ค่านิยม ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เพศสภาพเพศวิถีไม่ได้มีเพียงชายหญิงและรักต่างเพศเท่านั้น ที่สังคมอยู่ร่วมกันปฏิสังสรรค์กัน แต่มี LGBTQ+ ซึ่งการแก้ป.พ.พ. อีกครั้ง จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้นและเป็นวิวัฒนาการของกฎหมายที่พัฒนาไปตามวิถีชีวิตของประชาชน
