ดรามา ตรวจสารเสพติดเด็กในโรงเรียน

View icon 349
วันที่ 1 มิ.ย. 2566
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ดรามาโรงเรียนจัดโครงการตรวจหาสารเสพติด เด็กนักเรียนในโรงเรียน ทั้งโรงเรียน มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป ไม่ควรใช้วิธีจู่โจม บังคับ และต้องแสวงหาความร่วมมือจากเด็ก ๆ ร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดจะดีกว่า

จากกรณี เฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return-Official ได้โพสต์รูปภาพกลุ่มเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังเข้ารับการตรวจหาสารเสพติด โซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การบังคับนักเรียน ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด 100% เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิ์ของนักเรียน

ถามหาความจำเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองสุขภาพนักเรียนและกิจกรรมการป้องกันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันสารเสพติดประจำปี 2566 ให้นักเรียนตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เด็ก ๆ ทั้งโรงเรียนกว่า 1,600 คน จริง ๆ แล้ว ถ้าจะคัดกรองแล้วนำกลุ่มเสี่ยงไปตรวจทางลับ แต่ไม่ควรเป็นงานใหญ่ขนาดนี้ ที่มีตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ปปส. เข้ามาตรวจเด็ก ๆ ในโรงเรียน

ขณะที่ นางสาวทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก แสดงความเห็นว่า วิธีการตรวจหาสารเสพติดในเด็ก ไม่ควรใช้วิธีจู่โจม หรือใช้วิธีบังคับเข้าไปตรวจในโรงเรียน ควรใช้วิธีการเจรจาทำความเข้าใจกับเด็ก ๆ ในสถานการณ์ และการป้องกันปัญหายาเสพติด เพื่อให้เด็ก ๆ ให้ความร่วมมือแก้ปัญหา

แต่บางกระแสก็ว่า ดีแล้วนะที่ตรวจสอบถ้าเกิดมีนักเรียนเสพยา จะได้แจ้งผู้ปกครอง ครูตำรวจจะได้ให้คำแนะนำ เพื่อเป็นแนวทาง และช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมบุตรหลาน การตรวจเด็ก ถ้าไม่ได้เลือกปฏิบัติ ตรวจสอบหาสารเสพติด100% 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ สภ.วิเชียรบุรี ชี้แจงว่า โครงการโรงเรียนสีขาว ทำร่วมกันทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธารณสุข และทางโรงเรียน ก่อนจะตรวจหาสารเสพติดในโรงเรียนนั้น ทางโรงเรียนได้แจ้งล่วงหน้า ทางผู้ปกครองไปแล้ว และผลการตรวจหาสารเสพติด จากนักเรียนทั้งหมด ไม่พบว่ามีการใช้สารเสพติด